www.dooasia.com >
เมืองไทยของเรา >
เมืองเก่าของไทย
เมืองเก่าของไทย
เอกลักษณ์ทางธรรมชาติ
อุทยานแห่งชาติลานสาง
อยู่ที่บ้านลานสาง ตำบลแม่ท้อ อำเภอเมือง ฯ มีพื้นที่ประมาณ ๑๐๔ ตารางกิโลเมตรหรือประมาณ
๖๕,๐๐๐ ไร่ ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๒
สภาพโดยทั่วไปเป็นภูเขาสลับซับซ้อนติดต่อกันเกือบตลอดพื้นที่ ส่วนที่สูงที่สุดของอุทยาน
ฯ อยู่บริเวณด้านทิศตะวันตกและทิศใต้ และลาดต่ำลงมาทางด้านทิศตะวันออก มีลำธารไหลผ่านหลายสายเช่น ห้วยลานสาง
ห้วยท่าเลย คลองห้วยทราย ห้วยอุมยอม ป่าในเขตอุทยานเป็นป่าดงดิบ ป่าสน ป่าดิบเขา
ป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณ สลับกันไปตามลักษณะภูมิประเทศ
ตามตำนานเล่าสืบต่อกันมาว่า เมื่อครั้งสมเด็จพระเจ้าตากสิน ฯ เสด็จยกกองทัพไปตีเมืองเชียงใหม่
ครั้งที่ ๒ ได้ทรงหยุดพักกำลังพลที่บ้านสระแหง แขวงเมืองตาก มีชาวมอญเข้ามาสวามิภักดิ์ด้วยเป็นจำนวนมาก
ทหารพม่าได้ติดตามพวกมอญเข้ามา สมเด็จพระเจ้าตากสิน ฯ ได้เสด็จยกกองทัพออกไปขับไล่ทัพพม่าและเกิดพลัดหลงกับกองทัพ
กองทัพไทยจึงหยุดพักในขณะที่พักอยู่นั้นได้เห็นแสงสว่างพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า
และได้ยินเสียงม้าศึกร้อง จึงรับพากันไปยังจุดนั้น ก็พบสมเด็จพระเจ้าตากสิน
ฯ ประทับม้าอยู่กลางลานหิน มีแสงสว่างออกมาจากพระวรกาย มีทหารพม่าคุกเข่าอยู่โดยรอบ
ขณะนั้นเป็นเวลาฟ้าสางพอดี จึงเรียกบริเวณนั้นว่า ลานสาง และสถานที่สมเด็จพระเจ้าตากสิน
ฯ ประทับม้าก็ยังคงอยู่ในปัจจุบัน บริเวณน้ำตกชั้นที่ ๒ บริเวณลานหินจะมีรอยเกือกม้าของสมเด็จพระเจ้าตากสิน
ฯ ปรากฎอยู่ด้วย
สถานที่น่าสนใจ
ในอุทยานมีอยู่หลายแห่งด้วยกัน พอประมวลได้ดังนี้
ผาลาด อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยาน
ฯ ประมาณ ๑ กิโลเมตร มีลักษณะเป็นแผ่นหิน มีความลาดชันเล็กน้อย กว้างประมาณ
๒๕ เมตร ยาวประมาณ ๔๐ เมตร น้ำจะไหลบ่าไปตามแผ่นหิน แล้วรวมตัวไหลลงแอ่งเล็ก
ๆ
น้ำตกลานเลี้ยงม้า
(น้ำตกชั้นที่สอง) อยู่ทางตอนต้นของห้วยลานสาง ถัดขึ้นไปจากน้ำตกลานเลี้ยงม้าประมาณ
๒ กิโลเมตร เป็นน้ำตกชั้นที่มีผู้นิยมไปเที่ยวชมมากที่สุด มีความสูงประมาณ
๔๐ เมตร สายน้ำตกจะไหลพุ่งออกมาจากซอกเขา แล้วไหลลดหลั่นลงมาสามชั้น รวมตัวลงสู่แอ่งน้ำแล้วไหลลงสู่น้ำตกลานเลี้ยงม้า
น้ำตกผาเงิน
เกิดจากห้วยผาเงิน มีความสูงประมาณ ๑๙ เมตร มีน้ำไหลเฉพาะในฤดูฝน และฤดูหนาว
น้ำตากผาผึ้ง
(น้ำตกชั้นที่สาม) อยู่ตอนต้นของลำห้วยลานสาง สูงขึ้นไปตามซอกเขา อยู่ห่างจากน้ำตกลานสางประมาณ
๖๐๐ เมตร มีลักษณะเป็นหน้าผาเรียบ ๆ ลาดชันประมาณ ๗๐ องศา สูงประมาณ ๓๐ เมตร
น้ำตกผาน้ำย้อย
อยู่สูงขึ้นไปตามลำห้วยลานสาง อยู่ห่างจากน้ำตาผาผึ้งประมาณ ๑๐๐ เมตร มีลักษณะเป็นซอกผาแคบ
ๆ จึงบีบให้ห้วยลานสางเล็กลง ทำให้สายน้ำไหลผ่านด้วยความเร็วพุ่งลงแอ่งน้ำเบื้องล่าง
มีความสูงประมาณ ๕เมตร
น้ำตกผาเท (น้ำตกชั้นที่สี่)
อยู่สูงขึ้นไปตามลำห้วยห่างจากน้ำตกผาผึ้งประมาณ ๑.๔ กิโลเมตร มีลักษณะเป็นผาดิ่งชันซึ่งเป็นท้องน้ำตก
ที่มีการลดระดับต่ำลงอย่างรวดเร็ว น้ำจะพุ่งพ้นยอดผาเป็นสายลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่างด้วยความแรงจนกระจายเป็นฝอย
ทำให้เกิดเสียงดังครืน ๆ ได้ยินแต่ไกล
ศูนย์พัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขาจังหวัดตาก
(ดอยมูเซอ) อยู่ในตำบลพะวอ อำเภอแม่สอด
เป็นถิ่นที่อยู่ของชาวเขาเผ่าต่าง ๆ ซึ่งอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลกว่า ๘๐๐
ฟุต บริเวณดอยมูเซอ มีพื้นที่ประมาณ ๒๖,๐๐๐ ไร่ ชาวเขาที่อาศัยอยู่ในบริเวณดอยมูเซอ
ได้แก่ เผ่ามูเซอดำ ม้ง และลีซอ
ชาวเขาที่มาอาศัยอยู่ในประเทศไทยปัจจุบันล้วนอพยพมาจากมณฑลทางตอนใต้ของประเทศจีน
และเมืองปัน ในรัฐฉานของพม่า รวมทั้งเขตเมืองเชียงตุงด้วย ภาษาที่พูดจึงมีทั้งภาษาจีน
ภาษาธิเบต ภาษาพม่า ผสมกันไม่มีภาษาเขียน มีอาชีพปลูกพืชไร่ เช่น ข้าวโพด
ข้าว มีการเลี้ยงสัตว์บ้าง เช่น หมู ไก่
ทุกปีชาวเขาแต่ละเผ่า จะจัดงานรับวันปีใหม่ ช่วงที่มักจัดงานได้แก่ ช่วงเทศกาลตรุษจีน
สถานีทดลองพืชสวนดอยมูเซอ
ตั้งอยู่ใกล้ศูนย์พัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขา เป็นสถานที่ทดลองวิจัยเมล็ดพันธุ์กาแฟ
ชา ผลไม้ ไม้ดอก ผักต่าง ๆ
ในช่วงเดือนพฤศจิกายน
ถึงเดือนธันวาคม ดอกบัวตองบนเทือกเขาที่ตั้งสถานีทดลองพืชสวน จะบานสะพรั่งเต็มที่สวยงามน่าชมมาก
อุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช
อยู่ในตำบลแม่ท้อ ตำบลพะวอ อำเภอแม่สอด และอำเภอเมือง ฯ มีพื้นที่ประมาณ ๒๖๔
ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๑๖๕,๐๐๐ ไร่ สภาพป่าส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาสูงชัน
มีภูเขาสลับซับซ้อน ทิวทัศน์สวยงาม จุดเด่นที่สำคัญคือ ต้นกระบากใหญ่ ซึ่งจัดว่าเป็นต้นไม้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
พื้นที่ป่าแห่งนี้ในอดีตเคยใช้เป็นเส้นทางเดินทัพของไทยและพม่า เช่นในปี พ.ศ.๒๓๐๕
พระเจ้าอลองพญากษัตริย์พม่าได้ยกทัพมาล้อมกรุงศรีอยุธยา ในระหว่างยกทัพกลับได้ประชวรและสิ้นพระชนม์ในป่านี้
พื้นที่ของอุทยาน ฯ อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ท้อ ป่าห้วยตากฝั่งขวา
และป่าแม่ละเมา สภาพป่าสมบูรณ์อากาศเย็นสบายตลอดปี มีธรรมชาติงดงาม กรมป่าไม้ได้ดำเนินการจัดตั้งเป็นเขตอุทยาน
เมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๔ ป่าในเขตอุทยาน ฯ มีหลายชนิด เช่น ป่าดิบเขา ป่าสนเขา ป่าดงดิบ
ป่าเต็งรัง และป่าเบญจพรรณ
สถานที่น่าสนใจในอุทยาน ฯ
มีอยู่หลายแห่งด้วยกัน พอประมวลได้ดังนี้
ต้นกระบากใหญ่
มีขนาดวัดโดยรอบลำต้นได้ ๑๖.๖๐ เมตร สูงประมาณ ๖๐ เมตร เป็นต้นไม้ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
ในจำพวกไม้ชนิดเดียวกัน อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยาน ฯ ประมาณ ๔ กิโลเมตร
สะพานหินธรรมชาติ
มีลักษณะเป็นแท่งหินขนาดใหญ่เชื่อมหน้าผาสองแห่งเข้าด้วยกัน มีความกว้างและความสูงประมาณ
๒๕ เมตร เบื้องล่างมีลำธารไหลผ่าน ถัดออกไปประมาณ ๕๐ เมตร มีถ้ำอยู่แห่งหนึ่ง
ภายในถ้ำมีหินงอก หินย้อยสวยงาม
น้ำตกแม่ย่ามา
เป็นน้ำตกขนาดกลาง เกิดจากลำห้วยแม่ย่ามา อยู่ในป่าทึบมีน้ำไหลหลั่นกันลงมา
เป็นชั้นตามร่องห้วย แล้วไหลลงสู่ลำห้วยแม่ท้อ
น้ำตกนางครวญ
เดิมชื่อน้ำตกเพอะพะ ต่อมาเปลี่ยนเป็นน้ำตกพบพระ ก่อนเปลี่ยนมาเป็นชื่อน้ำนางครวญ
เป็นน้ำตกขนาดกลาง ลดหลั่นกันลงไปเป็่นชั้นเล็ก ๆ ท่ามกลางป่าเลื้องล่าง สายน้ำไหลแรง
มีต้นน้ำมาจากคลองเล็ก ๆ ริมท้องนาข้างทาง
น้ำตกพาเจริญ
อยู่ในเขตบ้านพากเจริญ ตัวน้ำตกไหลลดหลั่นเป็นชั้น ๆ ถึง ๙๗ ชั้น เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชนในละแวกนั้น
บริเวณน้ำตกมีลานกว้างขวาง
น้ำตกป่าหวาย
ธารน้ำตกเต็มไปด้วยป่าหวายจึงได้ชื่อว่า น้ำตกป่าหวาย การชมน้ำตกต้องเดินจากบริเวณล่างสุด
ฝ่ากระแสน้ำขึ้นไปชมน้ำตกชั้นบนเป็นชั้น ๆ บริเวณชั้นบนของน้ำตก ห่างออกไปประมาณ
๓๐ เมตร จะพบปล่องภูเขาขนาดใหญ่มีน้ำไหลลงสู่ปล่องดังกล่าว แล้วหายไปในบริเวณใต้ภูเขา
แก่งแม่ตื่น
ลำน้ำแม่ตื่นเป็นลำน้ำสาขาที่มีขนาดใหญ่ของลำน้ำแม่ปิง ไหลมาบรรจบลำน้ำแม่ปิง
บริเวณเหนือเขื่อนภูมิพล การล่องแก่งแม่ตื่น จะเริ่มต้นที่ที่ทำการเขตรักษาพันธุ์ป่าแม่ตื่น
ล่องไปตามลำน้ำแม่ตื่น ผ่านกลางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่ตื่น ซึ่งจะได้ชมความงามตามธรรมชาติของป่าไม้
และนกนานาพันธุ์ ได้ผจญภัยกับการล่องเรือยาง ผ่านเกาะแก่งต่าง ๆ ตามลำน้ำ
ถ้ำแม่อุสุ
อยู่ในเขตอุทยานถ้ำแม่อุสุ บ้านมีโนะโค๊ะ อำเภอท่าสองยาง เป็นถ้ำที่กว้างใหญ่มีเพดานถ้ำสูง
อากาศโปร่งและไม่มืดมากนัก มีลำห้วยแม่อุสุไหลผ่าน เมื่อจะเข้าถ้ำต้องลุยน้ำห้วยแม่อุสุเข้าไป
น้ำใสเย็นลึกเสมอเข่า กระแสน้ำไหลแรง ในฤดูฝนระดับน้ำจะสูงมาก ภายในถ้ำมีหินงอก
หินย้อย สวยงามมาก ทางด้านทิศตะวันตกมีโพรงหินขนาดใหญ่ ในตอนบ่ายจะมีแสงแดดส่องเข้ามาเป็นลำ
ทำให้ในถ้ำดูสวยงามยิ่งขึ้น เมื่อเดินเข้าไปในถ้ำได้ระยะหนึ่ง แล้วมองกลับมาทางเข้า
จะเห็นภาพลำห้วยที่ไหลคดเคี้ยว ออกจากถ้ำมืดไปสู่ถ้ำสว่าง มีฉากหลังเป็นทุ่งหญ้าสีเขียวสวยงามมาก
ดอยม่อนกระทิง
เป็นสถานที่สวยงามด้วยป่าเขาและสายหมอกในยามเช้า ยังมีสัตว์ป่าต่าง ๆ เช่น
กวาง ละมั่ง นก ฯลฯ จุดที่จะชมทะเลหมอกมีหลายจุดเช่น ม่อนครูบาไส ม่อนพุนสุดา
และม่อนกิ่วลม
น้ำตกทีลอซู
อยู่ที่บ้านโขะทะ ตำบลแม่จัน อำเภออุ้มผาง มีความสูงประมาณ ๒๐๐ - ๓๐๐
เมตร ยาวประมาณ ๕๐๐ เมตร ฤดูกาลที่เหมาะสมในการท่องเที่ยวคือ เดือนพฤศจิกายน
ถึงเดือนเมษายน
น้ำตกทีลอจอ
อยู่ที่บ้านอุ้มผาง มีลักษณะคล้ายมีสายฝนตกตลอดเวลา น้ำตกแบ่งเป็นชั้น ๆ รวมสองชั้น
ฤดูกาลที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวคือ หลังฤดูฝนหรือน้ำหลาก ประมาณเดือนธันวาคม
- พฤษภาคม
น้ำตกเซปละ
อยู่ที่บ้านเซปละ ตำบลแม่ละมุ้ง เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามอีกแห่งหนึ่ง น้ำตกจะตกลงมาเป็นชั้น
ๆ มีความกว้างประมาณ ๑๐ เมตร สูงประมาณ ๕๐ เมตร สายน้ำที่ตกลมาจะกระทบโขดหิน
แตกกระจายมองดูคล้ายเมฆสีขาวโดยทั่วไป
น้ำตกแม่กลองดี
หรือน้ำตกแม่กลองน้อย อยู่ที่บ้านแม่กลองดี ตำบลโมโกร เป็นน้ำตกมีสองชั้น
มีความสูงและทางเดินชัน ฤดูฝนน้ำจะสวยงามมาก มีความสูงประมาณ ๒๐ - ๓๐ เมตร
ดอยหัวหมด
อยู่ที่บ้านอุ้มผาง ตำบลอุ้มผาง เป็นภูเขาที่เป็นแนวยาวหลายลูกต่อกัน บนภูเขานี้จะไม่มีต้นไม้ใหญ่ขึ้น
แต่จะมีต้นหญ้าเตี้ย ๆ ขึ้นอยู่ทั่วไป รวมทั้งมีโขดหินเป็นระยะ มองจากด้านบนลงมาจะเห็นบ้านอุ้มผาง
และทิวเขาสลับซับซ้อนโดยรอบ เป็นทิวทัศน์ที่สวยงามมาก
ถ้ำกะโค๊ะบี๊
อยู่ที่บ้านแม่กลองใหญ่ ตำบลแม่กลอง ลักษณะของถ้ำมีทางเดินลงไปเป็นชั้น ๆ
ภายในถ้ำจะมีทางแยกหลายทาง บริเวณกว้างขวาง บางแห่งสามารถมองทะลุบ้านแม่กลองได้
มีความลึกประมาณ ๓ กิโลิมตร มีหินงอกหินย้อยสวยงามมาก
ทะเลสาบ ปลากะโต ลากะล่อย และเกลือเปอ
อยู่ในเขตตำบลแม่จัน เป็นหนองใหญ่ สามหนอง อยู่ติด ๆ กัน ในฤดูแล้งจะเห็นแยกจากกันชัดเจน
แต่ในฤดูฝนจะมองดูเป็นผืนน้ำกว้างใหญ่มาก ล้อมรอบด้วยเขาและป่าไม้ทึบ น้ำใสเย็นเขียวสามารถมองเห็นปลาแหวกว่ายไปมาในน้ำ
บริเวณรอบ ๆ มีสัตว์ป่าอยู่ชุกชุม และมีช้างป่าอาศัยอยู่หลายตัว
การล่องแพแม่น้ำแม่กลอง อุ้มผาง - สบแม่ละมุ้ง
- ปะหละทร ความลึกของแม่น้ำแม่กลองประมาณ
๑ - ๒ เมตร บริเวณที่แพผ่านเป็นเกาะแก่ง หน้าผา วังวน (บริเวณวังวนน้ำอาจจะลึกกว่าที่อื่น)
ลำน้ำบางช่วงกว้างประมาณ ๔ เมตร บางช่วงอาจกว้างถึง ๑๕ เมตร
วิธีการล่องแพจะใช้แพไม้ไผ่ ขนาด ๖ - ๑๖ ลำ แล้วแต่จำนวนคนที่จะโดยสาร การล่องแพจะเริ่มต้นจากห้วยอุ้มผาง
- ลงแม่น้ำแม่กลอง เป็นต้นไป บางครั้งลำน้ำอาจไหลเข้าไปในเวิ้งถ้ำหรือหน้าผา
หรือแก่งที่มีหินยื่นออกมาทั้งสองข้าง บางครั้งต้องลงเข็มแพในบริเวณที่น้ำตื่น
การล่องแพอาจต้องพักค้างในระหว่างทางอย่างน้อยหนึ่งคืน จะมีหาดทรายที่สวยงามเป็นจุดพักหลายแห่ง
ตอนกลางคืนอาจไปส่องดูสัตว์ได้
เส้นทางล่องแพสองข้างทางจะผ่านหน้าผา น้ำตกสายฝน แก่งมอแกโค้ ป่าที่เขียวขจี
พันธุ์ไม้ แปลก ๆ และดอกไม้สวยงาม รวมทั้งฝูงปลาในน้ำ
ระยะเวลาที่ควรล่องแพ อยู่ในช่วงเดือนพฤศจิกายน - เมษายน
เขื่อนภูมิพล (เขื่อนยันฮี)
อยู่ในเขตสามเงา อำเภอสามเงา เป็นเขื่อนเอนกประสงค์แห่งแรกของประเทศไทย สร้างเป็นเขื่อนคอนกรีตรูปโค้งขนาดใหญ่และสูงที่สุดในประเทศไทย
และเอเซียอาคเนย์ และเป็นอันดับแปดของโลก มีความสูงจากฐานถึงสันเขื่อน ๑๕๔
เมตร กั้นแม่น้ำปิงที่เขาแก้ว ตำบลสามเงา อำเภอสามเงา สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ถึง
๗๒๐,๘๐๐ กิโลวัตต์ และให้ประโยชน์ในด้านชลประทานแก่พื้นที่ถึง ๑,๕๐๐,๐๐๐ ไร่
อ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนจุน้ำได้ประมาณ ๑๓,๔๖๐ ล้านลูกบาศก์เมตร พื้นที่ผิวน้ำประมาณ
๓๐๐ ตารางกิโลเมตร ความยาวของลำน้ำจากตัวเขื่อนถึงอำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่
เป็่นะระยะทางประมาณ ๒๐๗ กิโลเมตร
ล่องแก่งแม่ปิงเหนือเขื่อนภูมิพล
เป็นการล่องแพโดยใช้เรือลากจูง จะได้ชมและสัมผัสกับธรรมชาติและภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยป่าเขา
กับอากาศที่บริสุทธิ์ ทิวทัศน์ที่สวยงาม ตลอดเส้นทางจะได้ชมถ้ำหินงอก หินย้อย
น้ำตก เกาะแก่งต่าง ๆ และปูชนียสถานที่สำคัญ เช่น พระพุทธบาทเขาหนาม พระธาตุแก่งสร้อย
เป็นการเดินทางจากอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนภูมิพลถึงดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่
เป็นระยะทางประมาณ ๒๐๔ กิโลเมตร และพักแรมบนแพ
เนินพิศวง
มีลักษณะเป็นทางขึ้นเนินอยู่บนถนนสายตาก-แม่สอด ตรงหลักกิโลเมตรที่ ๖๘ เมื่อนำรถไปจอดไว้ตรงทางขึ้นเนิน
รถจะไหลขึ้นเนินไปเอง ที่เป็นเช่นนี้เกิดจากภาพลวงตา เนื่องจากช่วงที่มองเห็นเป็นที่สูงขึ้นไปนั้น
มีระดับต่ำกว่าช่วงที่เห็นเป็นทางขึ้นเนิน
แม่น้ำเมย
พม่าเรียกแม่น้ำตองยิน อยู่ห่างจากตัวอำเภอแม่สอดไปทางตะวันตก ตามทางหลวงหมายเลข
๑๐๕ ประมาณ ๖ กิโลเมตร เป็นเขตสุดแดนไทย โดยมีแม่น้ำเมยเป็นเส้นกั้นเขตแดนไทย
- พม่า ยาวประมาณ ๓๒๗ กิโลเมตร แม่น้ำเมยไหลขึ้นไปทางเหนือ โดยมีต้นน้ำอยู่ที่บ้านมอเกอ
อำเภอพบพระ แล้วไหลผ่านอำเภอแม่ระมาด ท่าสองยาง ตลอดไปถึงจังหวัดแม่ฮ่องสอน
ไปบรรจบกับแม่น้ำสาละวิน แล้วไหลเข้าในเขตประเทศพม่า ไปออกทะเลที่อ่าวมะตะบัน
น้ำในแม้น้ำเมยจะมีน้อยมากในฤดูร้อน
บ่อน้ำร้อนแม่กาษา และถ้ำแม่กาษา
อยู่ในตำบลแม่กาสา มีอยู่สองบ่อ บ่อหนึ่งกว้างประมาณ ๑ เมตร อีกบ่อหนึ่งกว้างประมาณ
๑ เมตร นอกจากนี้ยังมีธารน้ำร้อนมาพบกับธารน้ำเย็น พื้นที่บริเวณนั้นจะมีกลิ่นกำมะถันกรุ่นอยุ่ทั่วไป
และมีไอน้ำจาง ๆ ลอยอยู่เหนือพื้นดินเล็กน้อย ที่ปากบ่อจะเห็นฟองและการเดือดของน้ำได้ชัดเจน
|