www.dooasia.com >
เมืองไทยของเรา >
เมืองเก่าของไทย
เมืองเก่าของไทย
วัดพระสี่อิริยาบถ
เป็นวัดขนาดใหญ่อีกวัดหนึ่งในบริเวณอรัญญิก อยู่ทางด้านทิศเหนือของวัดพระนอน
ผังวัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า หันหน้าไปทางทิศตะวันออก สิ่งก่อสร้างภายในวัดส่วนใหญ่ก่อด้วยศิลาแลง
มีอิฐปนอยู่บ้างเล็กน้อย กำแพงก่อด้วยศิลาแลงทั้งสี่ด้าน
ด้านหน้าวัดมีบ่อน้ำรูปสี่เหลี่ยมขุดลงไปในพื้นที่ศิลาแลง ใกล้บ่อน้ำมีที่อาบน้ำหรือห้องน้ำหนึ่งหลัง
มีศาลาปลูกสร้างคร่อมทางเดินเข้าประตูวัด ติดกำแพงวัดด้านนอกมีคูน้ำที่เกิดจากการขุดตัดศิลาแลงไปใช้ในการก่อสร้าง
ภายในวัดแบ่งพื้นที่ออกเป็นเขตพุทธาวาสและสังฆาวาส
- วิหาร
ตั้งอยู่ด้านหน้ากับแนวกำแพงวัดด้านทิศตะวันออก สร้างอยู่บนฐานรองรับขนาดใหญ่
หรือฐานทักษิณ เป็นแบบฐานบัวลูกแก้วอกไก่ ก่อด้วยศิลาแลงย่อมุมทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
มีบันไดทางขึ้นทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ผนังด้านข้างฐานทักษิณใช้ศิลาแลงทำเป็นลูกกรงเตี้ย
เลียนแบบเครื่องไม้ ชานชาลาด้านหน้ามีแท่นสิงห์ปูนปั้น และทวารบาลรวมแปดแท่น
บนลานประทักษิณมีฐานวิหารรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีมุขเด็จทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
บันไดทางขึ้นวิหารสร้างขนาบมุขเด็จทั้งสองข้าง วิหารมีขนาดเจ็ดห้องหรือเจ็ดช่วงเสา
ภายในมีแท่นอาสนะสงฆ์และฐานชุกชี มีร่องรอยพระประธานปูนปั้นประทับนั่งเสารองรับเครื่องบนใช้เสาศิลาแลงสี่เหลี่ยม
- มณฑป
ตั้งอยู่ด้านหลังวิหาร มีขนาดใหญ่ สร้างเป็นประธานวัดแทนเจดีย์ มีกำแพงแก้วล้อมรอบ
แนวกำแพงแก้วก่อมาเชื่อมฐานทักษิณด้านข้างทั้งสองด้าน กำแพงแก้วมีซุ้มประตูทางเข้าสามด้าน
ยกเว้นด้านตะวันออกที่เชื่อมต่อกับวิหาร
มณฑปมีผังแบบจตุรมุข ตรงกลางทำเป็นแท่งทึบก่อด้วยศิลาแลงและอิฐเพื่อรองรับส่วนยอดของหลังคา
และทำเป็นมุขยื่นออกมาทั้งสี่ด้านหรือสี่ทิศ ผนังของแท่นทึบแต่ละด้านประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่าง
ๆ คือด้านหน้าประดิษฐานพระพุทธรูปปางลีลา ด้านใต้ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัย
ด้านตะวันตกประดิษฐานพระพุทธรูปปางประทานอภัย และด้านทิศเหนือเป็นพระพุทธไสยาสน์หันพระเศียรไปทางทิศตะวันออก
พระสี่อิริยาบถนี้พบที่วัดเจตุพน นอกเมืองด้านทิศใต้ของเมืองสุโขทัย
ภายในกำแพงแก้วรอบมณฑปพระสี่อิริยาบถมีฐานเจดีย์รายหลายองค์ เจดีย์รายที่ตั้งอยู่ประจำมุมกำแพงแก้วเป็นเจดีย์ทรงปราสาทยอดระฆังแบบสุโขทัย
เรือนธาตุทำเป็นซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูป ส่วนยอดเป็นองค์ระฆัง
- อุโบสถ
อยู่ทางด้านทิศใต้ของเขตพุทธาวาส เกือบติดกำแพงวัด สร้างเป็นอาคารเล็ก
ๆ ฐานเตี้ย ชั้นเดียว เสาทำด้วยศิลาแลงสี่เหลี่ยม มีใบเสมาหินชนวนปักอยู่บนดินโดยรอบ
แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของโบสถ์มีน้อยกว่าวิหาร
- เขตสังฆาวาส
อยู่บริเวณด้านทิศใต้และทิศตะวันตกของเขตพุทธาวาส พบฐานอาคารขนาดต่าง ๆ ที่เป็นฐานศาลากุฏิสงฆ์
บ่อน้ำและเวจกุฎี
วัดพระสี่อิริยาบถน่าจะสร้างมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย เมื่อประมาณช่วงพุทธศตวรรษที่
๒๐
วัดฆ้องชัย
ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของวัดพระสี่อิริยาบถ ในเขตอรัญญิกของเมืองกำแพงเพชร
สิ่งก่อสร้างในวัดวางตรงตามแนวตะวันออกตะวันตก หันหน้าวัดไปทางทิศตะวันออก
กำแพงวัดก่อด้วยศิลาแลง มีอยู่เพียงสองด้านคือด้านทิศใต้และทิศตะวันตก นอกกำแพงวัดด้านทิศตะวันตก
ปรากฏมีบ่อศิลาแลงยาวขนานไปกับแนวกำแพงวัด
- วิหาร
ตั้งอยู่ด้านหน้า เป็นอาคารรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ฐานก่อเป็นฐานหน้ากระดาน มีบันไดทางขึ้นทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
ฐานหน้ากระดานล่างแตกต่างจากแห่งอื่น ๆ คือ ทำเป็นหน้ากระดานสูงถึง ๒.๑๐ เมตร
นับเป็นฐานเขียง หรือฐานหน้ากระดานของอาคารที่สูงสุด เท่าที่พบในเมืองกำแพงเพชร
ฐานวิหารด้านบนทำเป็นฐานบัวลูกแก้วอกไก่ มีมุขเด็จหน้า - หลัง บันไดทั้งด้านหน้าและหลัง
สร้างขนานมุขเด็จทั้งสองข้าง รูปแบบดังกล่าวมีอยู่ทั่วไป ในแบบอาคารของเมืองกำแพงเพชร
โถงอาคารมีขนาดเจ็ดห้อง แต่เมื่อรวมมุขหน้า - หลังด้วยจะเป็นอาคารขนาดใหญ่เก้าห้อง
เสารับเครื่องบนเป็นเสาศิลาแลงแปดเหลี่ยม บริเวณชานชาลามุขหน้าเดิมประดับมกรดินเผาหรือมกรสังคโลก
จากการขุดแต่งได้พบชิ้นส่วนมกรเป็นจำนวนมากที่บริเวณนี้
- เจดีย์ประธาน
ตั้งอยู่ด้านหลังวิหาร เป็นเจดีย์ทรงระฆังศิลปะสุโขทัย สกุลช่างกำแพงเพชร
องค์เจดีย์ตั้งอยู่บนฐานเขียงสี่เหลี่ยม และฐานหน้ากระดานแปดเหลี่ยม ที่ซ้อนกันลดหลั่นกันขึ้นมา
ฐานบัวลูกแก้วอกไก่แปดเหลี่ยม รองรับชั้นมาลัยที่ทำเป็นบัวกลาสามชั้น ปัจจุบันองค์ระฆังและส่วนยอดหักพังหมดแล้ว
จัดเป็นเจดีย์ทรงระฆังฐานแปดเหลี่ยม องค์ระฆังเล็กทำให้รูปทรงของเจดีย์สูง
เพรียวซึ่งเป็นรูปแบบที่พบทั่วไปในเมืองกำแพงเพชร ด้านหลังเจดีย์ประธานมีเจดีย์รายขนาดเล็กอยู่สี่องค์
- เขตสังฆาวาส
ตั้งอยู่ทางด้านทิศใต้และทิศตะวันตกของเขตพุทธาวาส มีฐานศาลา ฐานกุฏิสงฆ์
และบ่อน้ำ
พบเศษภาชนะดินเผาเป็นจำนวนมากที่เป็นเครื่องเคลือบ มีทั้งเครื่องเคลือบสังคโลก
เครื่องถ้วยจีนประเภทเครื่องลายครามสมัยราชวงศ์เหม็ง พบพระพุทธรูปสำริดฝีมือช่างพื้นเมือง
ผสมผสานรูปแบบศิลปะสุโขทัยและอยุธยาเข้าด้วยกัน ทำให้สันนิษฐานได้ว่า วัดฆ้องชัยน่าจะสร้างในช่วงสมัยสุโขทัยตอนปลาย
หรือช่วงกลางพุทธศตวรรษที่ ๒๐
วัดสิงห์
ตั้งอยู่ในบริเวณอรัญญิกของเมืองกำแพงเพชร ถัดจากวัดพระสี่อิริยาบถไปทางทิศเหนือ
มีกำแพงศิลาแลงโดยรอบทั้งสี่ด้าน ประตูวัดอยู่ด้านหน้า หนึ่งทางและด้านหลังหนึ่งทาง
ภายในบริดวณวัดแบ่งพื้นที่ออกเป็นเขตพุทธาวาสและเขตสังฆาวาสชัดเจนเช่นเดียวกับวัดอื่น
ๆ ในเขตอรัญญิก สิ่งก่อสร้างในเขตพุทธาวาส ไม่ตรงตามแกนทิศตะวันออก - ตะวันตก
โดยเฉียงลงทางทิศตะวันออกเฉียงใต้เล็กน้อย
จากการขุดแต่งพบหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงการปรับปรุงซ่อมแซมอาคารและเปลี่ยนแปลงหน้าที่ของอาคาร
เช่น อุโบสถที่ปรากฎอยู่ปัจจุบันเดิมเป็นวิหาร
ใบเสมาที่พบสลักจากหินชนวน บางใบประดับลวดลายพรรณพฤกษาในกรอบลายรูปสามเหลี่ยม
และที่ขอบของใบเสมาสลักเป็นแถวลายกนกปลายแหลม ซึ่งเป็นศิลปะอยุธยา
- อุโบสถหรือวิหารเดิม
ตั้งอยู่บนฐานทักษิณขนาดใหญ่ เช่นเดียวกับวิหารพระสี่อิริยาบถ บันไดทางขึ้นฐานทักษิณด้านหน้าสร้างแปลกกว่าแห่งอื่น
ๆ คือทำบันไดเจาะเข้าไปในฐานไม่ได้ยื่นออกมาจากฐานชานชาลาด้านหน้า บนฐานทักษิณก่อเป็นแท่นยกสูงขึ้นจากระดับพื้นประดับสิงห์ปูนปั้น
ทวารบาล และนาคที่มีแกนเป็นศิลาแลง
ตัวอาคารตั้งอยู่บนฐานประทักษิณ ลักษณะอาคารเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ามีมุขเด็จหน้า-หลัง
ฐานอาคารเป็นแบบฐานบัวลูกแก้วอกไก่ เสารองรับเครื่องบนเป็นเสาแปดเหลี่ยม ใช้เขียงศิลาแลงรูปแปดเหลี่ยมวางซ้อนกันขึ้นไป
ภายในอาคารยังปรากฎแนวอาสนสงฆ์ และฐานชุกชีประดิษฐานพระประธาน
- กำแพงแก้ว
สร้างต่อจากฐานทักษิณไปทางทิศตะวันตก ฐานทักษิณด้านหลังอยู่ภายในกำแพงแก้วเช่นเดียวกับวิหารวัดสี่อิริยาบถ
กำแพงแก้วแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนแรกมีเจดีย์ประธาน และเจดีย์ประจำมุมเล็ก
ๆ อีกส่วนหนึ่งมีฐานอาคารขนาดเล็กหนึ่งหลัง
- เจดีย์ประธาน
ก่อด้วยศิลาแลงและอิฐ ปัจจุบันเหลือเฉพาะส่วนที่เป็นฐานหน้ากระดานสี่เหลี่ยม
ซ้อนกันสามชั้นถัดขึ้นไปเป็นฐานบัว มีซุ้มยื่นออกมาจากฐานล่างทั้งสี่ด้าน
ภายในซุ้มมีร่องรอยการประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นแกนศิลาแลง พบชิ้นส่วนปูนปั้นบัวปากระฆังอยู่รอบฐานเจดีย์
แสดงว่ารูปทรงเดิมขององค์เจดีย์เป็นทรงระฆัง ฐานสี่เหลี่ยมคล้ายเจดีย์ประธานวัดกำแพงงาม
คือ เป็นเจดีย์ทรงระฆังฐานสูง
โบราณวัตถุที่พบได้แก่เขียงพระพุทธรูปสำริด เศษภาชนะดินเผาทั้งเคลือบและไม่เคลือบ
ชนิดเคลือบได้แก่เครื่องเคลือบสังคโลก เครื่องถ้วยจีนแบบเครื่องลายครามสมัยราชวงศ์เหม็ง
ตะปูตอกเครื่องไม้ ใบเสมาหินชนวน โบราณวัตถุมีทั้งแบบสุโขทัยและแบบอยุธยาปนกัน
วัดกำแพงงาม
ตั้งอยู่ในเขตอรัญญิกของเมืองกำแพงเพชร มีผังเป็นรูปสี่เหลี่ยม หันหน้าไปทางทิศตะวันออกมีกำแพงศิลาโดยรอบทั้งสี่ด้าน
เขตพุทธาวาสมีกำแพงแก้วล้อมรอบ เขตสังฆาวาสอยู่บริเวณด้านหลัง และด้านข้างของเขตพุทธาวาส
- วิหาร
ก่อด้วยศิลาแลง เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีมุขหน้า - หลัง ฐานเป็นแบบบัวลูกแก้วอกไก่
- เจดีย์ประธาน
เป็นเจดีย์ทรงระฆังฐานสี่เหลี่ยม ก่อด้วยศิลาแลง องค์ระฆังและส่วนยอดหักพังหมดแล้ว
เหลือแต่ฐานหน้ากระดานสี่เหลี่ยมซ้อนลหลั่นกันสามชั้น รูปแบบดังกล่าวน่าจะมีมาก่อนฐานแปดเหลี่ยม
ด้านหน้าและด้านหลังเจดีย์ประธานมีเจดีย์รายอยู่เจ็ดองค์
- อุโบสถ
ตั้งอยู่นอกกำแพงวัดด้านทิศตะวันออก
วัดช้างรอบ
ตั้งอยู่บนจุดสูงสุดของภูเขาลูกรังขนาดย่อมในเขตอรัญญิกของเมืองกำแพงเพชร
ผังวัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า หันหน้าไปทางทิศตะวันออก มีกำแพงศิลาเฉพาะด้านตะวันออกและด้านใต้
- เจดีย์ประธาน
เป็นเจดีย์ทรงระฆังบนฐานสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ ด้านบนของฐานมีลานสำหรับประทักษิณได้รอบองค์เจดีย์
ฐานกว้างด้านละ ๓๒ เมตร ทำเป็นแบบฐานบัวคว่ำบัวหงายสองชั้น ฐานบัวชั้นบนยืดส่วนหน้ากระดาน
ท้องไม้ให้เป็นผนังสูงประดับช้างปูนปั้นครึ่งตัวโดยรอบ จำนวน ๖๘ เชือก เป็นแบบช้างทรงเครื่อง
ประดับลายปูนปั้นโดยส่วนต่าง ๆ ระหว่างช้างแต่ละเชือกตกแต่งลวดลายปูนปั้นนูนสูงเป็นลายต้นไม้
และปั้นเป็นสัตว์เล็ก ๆ แช่น กระรอก นก และงู เกาะเกี่ยวกิ่งไม้
บริเวณกึ่งกลางฐานทักษิณมีบันไดขึ้น - ลง ทั้งสี่ด้าน ชานบันไดแต่ละด้านประดับสิงห์
และทวารบาลปูนปั้นอยู่บนแท่นเตี้ย ๆ หันหน้าออกด้านนอก
จากบันไดที่จะขึ้นไปยังลานประทักษิณทำเป็นซุ้มประตู หลังคาซุ้มเป็นเจดีย์ยอดระฆังขนาดเล็ก
นับเป็นรูปแบบที่แปลกที่ไม่เคยพบในที่อื่นของศิลปะสุโขทัย แต่รูปแบบดังกล่าวปรากฎตามโบราณสถานขนาดใหญ่ของกรุงศรีอยุธยา
เช่น เจดีย์ยอดระฆังบนหลังคามุขทิศของเจดีย์ระฆังสามองค์ที่วัดพระศรีสรรเพชญ
เป็นต้น
บนลานทักษิณก่อผนังเตี้ย ๆ ด้วยอิฐเชื่อมต่อระหว่างซุ้มประตูแต่ละทิศ มีฐานเจดีย์ประจำอยู่ทั้งสี่มุม
เดิมเป็นเจดีย์ทรงปรางค์กลีบมะเฟือง มีรูปแบบคล้ายคลึงกับเจดีย์รายในบริเวณวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ
จังหวัดลพบุรี องค์เจดีย์ตั้งอยู่บนฐานประทักษิณประกอบด้วย ฐานหน้ากระดานแปดเหลี่ยม
ถัดขึ้นไปเป็นฐานหน้ากระดานทรงกลม ฐานชั้นนี้ประดับลวดลายปูนปั้นเรื่องพระพุทธประวัติโดยแบ่งออกเป็นช่องรอบองค์เจดีย์รวม
๔๔ ช่อง บางช่องที่ปูนปั้นกะเทาะหลุดออกมาปรากฎเส้นร่างสีดำที่ช่างได้เขียนบนพื้นก่อนปั้นปูน
ด้านล่างของปูนปั้นประดับหงส์ดินเผาโดยรอบ นอกจากนี้ยังพบงานดินเผาอื่น ทำเป็นรูปกินนร
กินรีเคียงเทวดา แต่ไม่ทราบตำแหน่งประดับที่แน่ชัด
ถัดจากฐานหน้ากระดานกลมที่ประดับภาพปูนปั้นขึ้นไป ทำเป็นฐานกลมแบบบัวคว่ำบัวหงาย
(ฐานปัทม์) ซ้อนลดหลั่นกันสองชั้น องค์เจดีย์ถัดขึ้นไปจากฐานปัทม์กลมหักพังหมดแล้ว
เจดีย์ช้างล้อม เป็นรูปแบบที่นิยมสร้างกันมากในสมัยสุโขทัย
ทั้งที่เมืองสุโขทัยและเมืองบริวารคือ ศรีสัชนาลัยและกำแพงเพชร สันนิษฐานว่า
ได้รับอิทธิพลมาจากลังกา
เจดีย์วัดช้างรอบ
เมืองกำแพงเพชร นับเป็นเจดีย์ทรงระฆังที่ประดับช้างปูนปั้นโดยรอบ ฐานที่ใหญ่ที่สุดในอาณาจักรสุโขทัย
- วิหาร
มีผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีฐานแบบบัวลูกแก้วอกไก่ มีมุขเด็จหน้า - หลัง
บันไดสร้างขนาบมุขเด็จ ภายในวิหารยังปรากฎแนวอาสนสงฆ์ และฐานชุกชีประดิษฐานพระประธาน
เสาอาคารรับเครื่องบนเป็นศิลาแลงสี่เหลี่ยม ด้านหน้าวิหารมีบ่อรูปสี่เหลี่ยม
ที่ขุดตัดลงไปในศิลาแลง เพื่อนำศิลาแลงมาใช้ในการก่อสร้าง บ่อนี้ได้ดัดแปลงมาเป็นสระน้ำด้านหน้าวัด
- อุโบสถ
เป็นอาคารขนาดเล็ก ตั้งอยู่เกือบติดกำแพงวัดด้านตะวันออก
วัดอาวาสใหญ่
เป็นวัดขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ที่ตั้งอยู่ในเขตอรัญญิกของเมืองกำแพงเพชร ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมือง
หรือจากประตูสะพานโคมไปทางด้านทิศเหนือ ประมาณ ๒ กิโลเมตร ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข
๑๐๑ (กำแพงเพชร - สุโขทัย) ตัดผ่านนหน้าวัด วัดหันหน้าไปทางทิศตะวันออก
สิ่งก่อสร้างใช้ศิลาแลงเป็นวัสดุหลัก ใช้อิฐน้อยมาก หน้าวัดมีบ่อน้ำรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่
ขุดเจาะลงไปในศิลาแลง ขนาดกว้าง ๑๑ เมตร ยาว ๘ เมตร ลึก ๘ เมตร ชาวบ้านเรียกว่า
บ่อสามแสน วัดนี้ไม่มีกำแพงวัด
มีเฉพาะกำแพงแก้วที่ก่อด้วยศิลาแลงล้อมรอบเขตพุทธาวาส แนวกำแพงแก้วช่วงหลังหักมุมเข้ามา
ทำให้บริเวณพุทธาวาสแคบลง
สิ่งก่อสร้างสำคัญในเขตพุทธาวาส ด้านหน้าก่อเป็นฐานรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ทำมุมฉากจำนวนสองฐาน
บนฐานมีเจดีย์รายแบบต่าง ๆ ฐานละแปดองค์ ถัดไปเป็นวิหาร และเจดีย์ประธานตามลำดับ
- วิหาร
ตั้งอยู่เกือบกึ่งกลางของเขตพุทธาวาส ตัววิหารตั้งอยู่บนฐานขนาดใหญ่ หรือฐานทักษิณรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า
กว้าง ๒๕ เมตร ยาว ๕๐ เมตร สูง ๑.๕ เมตร มีบันไดทางขึ้นสามทางคือ ด้านหน้า
และบริเวณกึ่งกลางด้านข้างทั้งสองด้าน ผนังด้านข้างของฐานทักษิณใช้ศิลาแลงทำเป็นราวลูกกรง
คล้ายกับฐานทักษิณวัดพระสี่อิริยาบถ มีมุขเด็จด้านหน้าและด้านหลัง มีขนาดเจ็ดห้อง
เมื่อรวมกับมุขหน้า - มุขหลัง จะเป็นวิหารขนาด ๙ ห้อง เสารองรับเครื่องบนเป็นเสาศิลาแลงสี่เหลี่ยม
ผนังก่อแบบสูงแล้วเจาะผนังแต่ละห้องเป็นช่องที่เรียกว่า ผนังช่องลม
- เจดีย์ประธาน
ตั้งอยู่ด้านหลังวิหาร เป็นเจดีย์ขนาดใหญ่สร้างติดกับฐานทักษิณ ฐานเจดีย์เป็นฐานแปดเหลี่ยมย่อมุม
ฐานล่างสุดเป็นฐานหน้ากระดานแปดเหลี่ยม ถัดขึ้นไปเป็นฐานบัวย่อมุมยี่สิบ นอกนั้นเป็นฐานบัวย่อมุม
ๆ ละห้าเหลี่ยม หรือย่อมุมยี่สิบที่มีการยืดส่วนหน้ากระดานท้องไม้ให้เป็นผนังสูง
แล้วประดับบัวลูกแก้วอกไก่สองแถว คล้ายกับส่วนเรือนธาตุของเจดีย์พุ่มข้าวบิณฑ์แบบสุโขทัย
แต่คงไม่ใช่เจดีย์พุ่มข้าวบิณฑ์ เพราะฐานบัวส่วนนี้อยู่ในตำแหน่งที่ต่ำกว่าส่วนเรือนธาตุของเจดีย์พุ่มข้าวบิณฑ์มาก
ส่วนยอดที่อยู่เหนือขึ้นไปหักพังไปหมด จึงไม่ทราบรูปทรงเดิมที่แน่ชัด
จากการศึกษารูปแบบของฐานเจดีย์ เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับเจดีย์อื่น ๆ พบว่าลัษณะของฐานดังกล่าว
มีความคล้ายคลึงกับฐานเจดีย์ประธานวัดเจดีย์สูง ที่ตั้งอยู่นอกกรุงสุโขทัย
ด้านทิศตะวันออก ซึ่งเป็นเจดีย์ทรงกลมที่มีการขยายส่วนหน้ากระดานท้องไม้ของฐานบัวชั้นล่างให้เป็นผนังสูง
และยังมีฐานบัวด้านบนอีกชั้นหนึ่ง ฐานบัวทั้งสองชั้นย่อมุม ๆ ละห้าเหลี่ยม
หรือย่อมุมไม้ยี่สิบเช่นเดียวกับเจดีย์ประธานวัดอาวาสใหญ่ ฐานบัวชั้นบนรองรับเจดีย์ทรงระฆังศิลปะสุโขทัย
คือ ชั้นมาลัยเถาที่ทำเป็นบัวถลาสามชั้น แล้วจึงเป็นองค์ระฆังบัลลังก์และปลียอด
ถัดขึ้นไปเป็นฐานบัวคว่ำและบัวหงาย ชั้นที่สองย่อมุมยี่สิบเหมือนชั้นแรก แล้วจึงเป็นชั้นมาลัยเถา
ที่ทำเป็นชุดบัวถลาสามชั้นเป็นองค์ระฆัง บัลลังก์และปลียอด
ด้านหลังเจดีย์ประธานมีฐานอาคารหรือฐานวิหาร ที่ก่อฐานหน้ากระดานสูงอีกหนึ่งหลัง
และบ่อน้ำรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่ เกือบเท่าบ่อสามแสนหน้าวัดอีกแห่งหนึ่ง
ถัดจากเขตพุทธาวาสไปทางด้านหลังติดด้านตะวันตก ด้านหนือและด้านใต้เป็นเขตสังฆาวาส
มีกลุ่มอาคารที่เป็นกุฎิสงฆ์ และศาลาจำนวน ๓๑ แห่ง บ่อน้ำสองบ่อ และเวจกุฎี
หนึ่งแห่ง
วัดอาวาสใหญ่เป็นวัดที่มีการจัดแผนผังสิ่งก่อสร้างได้อย่างงดงาม จากการขุดแต่งได้พบเศียรพระพุทธรูปทั้งที่เป็นแบบศิลปะสุโขทัยและอยุธยาปนกัน
เช่นเดียวกับวัดขนาดใหญ่อื่น ๆ ในบริเวณอรัญญิกของเมืองกำแพงเพชร
|