www.dooasia.com >
เมืองไทยของเรา >
เมืองเก่าของไทย
เมืองเก่าของไทย
วัดเกาะ อยู่ในเขตตำบลบ้านเกาะ
อำเภอเมือง ฯ ลักษณะที่ตั้งดั้งเดิมมีแม่น้ำท่าจีนล้อมรอบ ต่อมาแม่น้ำเปลี่ยนเส้นทาง
ทำให้บริเวณดังกล่าวตื้นเขินเป็นที่ราบ
จากคำบอกเล่าของเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันว่า วัดเกาะสร้างขึ้นเมื่อประมาณ ปี
พ.ศ.๒๒๔๗ สันนิษฐานว่า ชาวจีนสร้างเนื่องจากบริเวณวัดส่วนใหญ่เป็นชุมชนชาวจีน
ต่อมาพวกมอญอพยพหนีสงครามจากพม่าเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร ได้ช่วยกันบูรณะซอมแซมเพื่อเป็นศูนย์กลางของชุมชน
-
อุโบสถ (หลังเก่า)
สร้างสมัยพระอธิการสอนเจ้าอาวาสรูปที่เจ็ด ลักษณะของโบสถ์ก่ออิฐถือปูนทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า
หลังคาเครื่องไม้มุงกระเบื้องดินเผาลดสองชั้น ชั้นละสองแถว ช่อฟ้าใบระกา หางหงส์
เป็นไม้แกะสลักประดับประจก หน้าบันทำเป็นรูปเทพพนมประดับตกแต่งลายก้านขด ด้านล่างมีลายดอกไม้
มีสาหร่ายและรวงผึ้งด้านล่าง เสารองรับหลังคาเป็นเสาก่ออิฐถือปูนรูปสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่
หัวเสามีดอกบัวปูนปั้นทาสี มีระเบียงเดินได้รอบอุโบสถ ผนังก่ออิฐถือปูนตั้งอยู่บนฐานบัว
ด้านหน้ามีประตูเข้าออกสองบาน มีหน้าต่างด้านละห้าช่อง บานประตูหน้าต่างทำเป็นบานเรียบ
- ใบเสมาและซุ้มเสมา
ซุ้มเสมาก่ออิฐถือปูนทรงมณฑปสี่เหลี่ยม ตั้งอยู่บนฐานบัว ส่วนยอดเป็นชุดบัวกลุ่มเถา
ซุ้มเสมารองรับเป็นฐานสี่เหลี่ยมรองรับดอกบัว ใบเสมาทำจากหินแกรนิต
- เจดีย์ทรงระฆัง
ตั้งอยู่ด้านหน้าอุโบสถ มีอยู่สององค์ ตามประวัติกล่าวว่าสร้างสมัยพระอธิการเติม
เป็นเจดีย์ก่ออิฐถือปูนทรงระฆัง ตั้งบนฐานสี่เหลี่ยม มีระเบียงล้อมรอบ ประดับกระเบื้องเคลือบรูปหกเหลี่ยมแบบจีน
ฐานหน้ากระดานกลมและมาลัยเถาสามชั้น ปากระฆังมีลวดลายปูนปั้นตกแต่ง องค์ระฆังกลม
ส่วนยอดเป็นบัลลังก์สี่เหลี่ยมและเสาหินรองรับปล้องไฉน
- เจดีย์มอญ
ตั้งอยู่หน้าอุโบสถ ตามประวัติกล่าวว่า พระครูกร่าง รมนโณ ได้ร่วมกับชาวบ้านสร้างเจดีย์มอญขนาดใหญ่ไว้หน้าอุโบสถ
เป็นเจดีย์ทรงกลมก่ออิฐถือปูนตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมกึ่งกลางฐานแต่ละด้านเป็นซุ้มโค้ง
ภายในมีเทวดาปูนปั้น มุมทั้งสี่เป็นรูปครุฑ ฐานเจดีย์เป็นฐานหน้ากระดานรองรับบัวถลาห้าชั้น
ส่วนยอดมีบัลลังก์เป็นรูปสี่เหลี่ยมประดับลวดลายปูนปั้น รองรับปล้องไฉนขนาดใหญ่และมีเม็ดน้ำค้าง
ยอดมีฉัตรโลหะปักคลุมอยู่
- เสาหงส์
ตั้งอยู่ด้านหน้าวัด เป็นเสาไม้แปดเหลี่ยม หัวเสาตกแต่งเป็นหัวเปิด มีเสาประกบด้านข้างทั้งสองด้าน
วัดพันธุวงษ์
ตั้งอยู่ในเขตตำบลบ้านเกาะ อำเภอเมือง ฯ เป็นวัดเก่า ชาวบ้านเกาะได้ร่วมใจกันบูรณะขึ้นใหม่
และประกาศเป็นวัด เมื่อปี พ.ศ.๒๔๓๗
- อุโบสถ (หลังเก่า)
เป็นอาคารก่ออิฐถือปูนทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า หลังคาเครื่องไม้มุงกระเบื้องซีเมนต์หางแหลม
ลดชั้นละสองแถว เครื่องลำยองเป็นไม้แกะสลักประดับกระจก หน้าบันลายก้านขดตรงกลางเป็นลายประจำ
ที่หน้าบันส่วนล่างและหน้าอุดปีกนก ด้านหน้าและหลังมีมุขลดด้านละแห่ง ด้านข้างมีชายคาปีกนก
รองรับโครงหลังคาด้วยเสาปูนสี่เหลี่ยมรูปบัวแวง มีบันไดขึ้นลงสองด้านมีระเบียงทางเดินโดยรอบอาคาร
ผนังก่ออิฐถือปูนอยู่บนฐานบัว มีหน้าต่างข้าละห้าบาน สันนิษฐานว่า เดิมซุ้มประตูและหน้าต่างทั้งหมดประดับด้วยลายปูนปั้น
- เสมาและซุ้มเสมา
ในเสมาทำด้วยหินทรายสีแดงอยู่บนฐานบัว ส่วนซุ้มก่ออิฐถือปูนทรงเจดีย์ ยอดซุ้มเป็นชุดบัวกลุ่ม
บัวเถา
วัดราษฎร์บำรุง (วัดหงอนไก่)
ตั้งอยู่ที่บ้านคลองมะเดื่อ ตำบลคลองมะเดื่อ อำเภอกระทุ่มแบน พื้นที่ตั้งวัดเป็นที่โล่ง
ตั้งเป็นสำนักสงฆ์ เมื่อปี พ.ศ.๒๔๓๘ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อปี
พ.ศ.๒๔๔๔ อุโบสถหลังเก่าสร้างในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
และได้ผูกพัทธสีมา เมื่อปี พ.ศ.๒๔๕๐
- อุโบสถหลังเก่า
เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน หันหน้าไปทางด้านทิศตะวันออก หลังคาเครื่องไม้มุ่งกระเบื้องว่าว
มีพาไล (เรือนหรือเพิงโถงต่อจากเรือนเดิมใช้เป็นที่นั่งเล่นหรืออื่น ๆ ซึ่งไม่ใช่หลังนอน)
มุงสังกะสียื่นออกมา ทั้งด้านหน้าและด้านหลังด้านละห้อง รองรับโครงหลังคาด้วยเสาไม้กลม
ช่อฟ้าใบระกาทำด้วยไม้แบบมอญ หน้าบันตกแต่งลวดลายปูนปั้น แบ่งออกเป็นสองส่วน
ด้านบนเป็นรูปเทพพนม ถัดลงมาเป็นหงส์สองตัวหันหน้าเข้าหากัน มีลวดลายดอกไม้ประดับด้วยเครื่องถ้วยชามเคลือบสี
และเครื่องลายครามแบบจีน เป็นอิทธิพลศิลปะแบบพระราชนิยมในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
ผนังอุโบสถก่ออิฐถือปูน มีประตูทางเข้าด้านหน้าและด้านหลัง ด้านละสองบาน ซุ้มประตูและหน้าต่างมีปูนปั้นลายพันธุ์พฤกษา
ภายในอุโบสถมีพระพุทธรูปหินทรายแดงศิลปะอยุธยาตอนปลาย
วัดหงส์อรุณรัศมี
(วัดน้อยนางหงส์) อยู่ในเขตตำบลท่าจีน อำเภอเมือง ฯ สันนิษฐานว่า สร้างในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้า
ฯ เดิมชื่อวัดน้อยนางหงส์
- อุโบสถ
เป็นสถาปัตยกรรมสมัยอยุธยาตอนปลาย คล้ายเรือสำเภามีเจดีย์เก็บอัฐิ เรียงรายอยู่บนฐานของโบสถ์
อิฐิที่ใช้ก่อสร้างนำมาจากประเทศจีน แช่ด้วยน้ำมันตังอิ๊ว ก่อนมาสร้างเพื่อให้อิฐไม่ละลายน้ำ
หน้าบันประดับลวดลายด้วยเครื่องถ้วยจีน
- อนุสรณ์สถานท่านจี
มีลักษณะเป็นสิ่งก่อสร้างแบบยุโรป สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ผู้สร้างวัดนี้
วัดใหญ่บ้านบ่อ
สันนิษฐานว่า สร้างก่อนเสียกรุงศรีอยุธยา เมื่อปี พ.ศ.๒๓๑๐ มีพื้นที่ของวัดกว้างขวางมีถาวรวัตถุที่มีอายุเก่าแก่เช่น
โบสถ์ วิหาร หอไตรและเจดีย์ หลังคาอาคารต่าง ๆ ภายในวัดส่วนใหญ่จะมุงด้วยกระเบื้องรามัญ
- อุโบสถ
หันหน้าไปทางทิศตะวันออก ภายในมีพระประธานปูนปั้นปิดทอง หน้าตักกว้างสี่ศอก
มีอัครสาวกนั่งอยู่สองข้างซ้าย - ขวา พื้นอุโบสถเป็นหินอ่อน ฝาผนังอุโบสถก่ออิฐถือปูน
ตัวอุโบสถยาวหกวา สองศอก กว้างสี่วา ที่ผนังโบสถ์มีพระพุทธรูปปางป่าเลไลยก์ปูนปั้นหนึ่งองค์
โดยทำเป็นคูหาลึกเข้าไปหลังคาโบสถ์ มุงด้วยกระเบื้องรามัญ มีพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ตอนบรมราชาภิเษกอยู่หนึ่งรูป หน้าโบสถ์มีเจดีย์สององค์ รูปร่างคล้ายพระปฐมเจดีย์
- หอไตร
สร้างอยู่กลางสระน้ำ ซึ่งหล่อและเทคอนกรีตยาว หกวา สองศอก ภายในหอไตรแบ่งออกเป็นสามห้องเล็ก
ๆ ฝากระดานเฟี้ยม มีพาไลโดยรอบ มีตู้พระธรรมลายรดน้ำอยู่หนึ่งใบ
วัดป้อมวิเชียรโชติการาม
อยู่ในเขตตำบลมหาชัย อำเภอเมือง ฯ เดิมโบสถ์สร้างด้วยไม้ มีพระประธานเป็นพระพุทธรูปสำริดสมัยอยุธยา
นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปสลักจากศิลาแลง ชาวบ้านเรียกว่า หลวงพ่อแดง
ซึ่งชาวบ้านเคารพนับถือกันมาก
เนื่องจากเดิมสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ของวัดสร้างด้วยไม้ ทำให้มีการเสื่อมโทรมไปตามกาลเวลา
จึงได้มีการปรับปรุงให้เป็นคอนกรีต ลักษณะทรงไทยที่สวยงาม
จากการที่วัดแห่งนี้ได้มีการพัฒนาในด้านต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง จึงได้รับการยกย่องจากกรมการศาสนา
ให้เป็นวัดพัฒนาตัวย่าง เมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๐ และเป็นวัดพัฒนาดีเด่น เมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๑
และได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นพระอารามหลวง เมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๙
วัดท่ากระบือ
ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำท่าจีน ที่บ้านบางยาง ตำบลบางยาง อำเภอกระทุ่มแบน เดิมเป็นสำนักสงฆ์ตั้งขึ้น
เมื่อปี พ.ศ.๒๔๓๐ ต่อมาจึงได้ยกฐานะขึ้นเป็นวัด
- อุโบสถ
สร้างเมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๕ เป็นอาคารทรงไทยก่ออิฐถือปูนทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า หลังคาเครื่องไม้มุงกระเบื้องลดชั้นสองชั้น
ซ้อนกันชั้นละสองแถว ช่อฟ้าใบระกาหางหงส์ หน้าบันเป็นไม้แกะสลักประดับกระจกสี
ด้านหน้ามีมุขลดรองรับโครงหลังคาด้วยเสาปูนสี่เหลี่ยม ด้านข้างมีคันทวย ผนังก่ออิฐถือปูนตั้งอยู่บนฐานบัว
ด้านหน้ามีประตูทางเข้าสองประตู ซุ้มประตูทรงมณฑป ผนังตอนบนระหว่างซุ้มหน้าต่างมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง
รอบอาคารเป็นระเบียงทางเดินมีบันไดทางขึ้นลงด้านหน้า และด้านข้าง
ภายในอุโบสถประดิษฐานพระประธานเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ
- วิหาร
มีอยู่สองหลังตั้งอยู่ด้านข้างอุโบสถ สร้างเมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๓ เป็นอาคารทรงไทยก่ออิฐถือปูน
หลังคาเครื่องไม้มุงกระเบื้องลดชั้นสองชั้น ช่อฟ้าใบระกา หางหงส์ ด้านหน้าลดมุขรองรับโครงหลังคาด้วยเสาสี่ต้น
ด้านข้างมีชายคาปีกนก และคันทวย ผนังก่ออิฐถือปูนตั้งอยู่บนฐานบัว
- เจดีย์ราย
ตั้งอยู่ด้านหน้าอุโบสถ จำนวนสี่องค์ เจดีย์ในเรือสามองค์ ด้านข้างวิหารแปดองค์
ลักษณะเป็นเจดีย์ทรงระฆัง ต่อขึ้นไปเป็นชุดฐานสิงห์ มีบัวรองรับปากระฆัง องค์ระฆังย่อไม้สิบสอง
ส่วยยอดเป็นบัวกลุ่มเถา ปล้องไฉนและปลียอด
- พระปรางค์
มีจำนวนสี่องค์ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของอุโบสถ เป็นเจดีย์ทรงปรางค์ก่ออิฐถือปูนตั้งอยู่บนฐานเขียง
ที่ฐานมีคำอุทิศจารึกบนแผ่นหินอ่อน ต่อขึ้นไปเป็นชุดฐานสิงห์เรือนธาตุมีซุ้มจรนำทั้งสี่ทิศ
ยอดปรางค์มีนภศูลโลหะปักอยู่
- ศาลาการเปรียญ
เป็นอาคารทรงไทยยกพื้นสูง หลังคาเครื่องไม้มุงกระเบื้อง มีชายคาปีกนกโดยรอบ
สร้างเมื่อปี พ.ศ.๒๔๖๒
- ศาลาไม้ทรงจตุรมุข
ด้านล่างโปร่ง หลังคาเครื่องไม้มุงกระเบื้อง หน้าบันชายคา และไม้คอสูงตกแต่งด้วยไม้ลายฉลุ
|