หาดใหญ่
(วันนี้)
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในสามจังหสัดชายแดนภาคใต้เป็นเหตุการณ์ที่น่ากลัว ทำให้นักท่องเที่ยวไม่ว่าชาวไทยหรือชาวต่างประเทศ
ไม่กล้ามาเที่ยวกันโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากสิงคโปร์ และมาเลเซีย หายไปหลายเปอร์เซ็นต์
เพราะฝ่ายเขาก็ช่วยประชาสัมพันธ์ในทางที่เลวร้ายซ้ำเติมให้แก่เราด้วย
แต่เหตุการณ์แบบนี้คล้าย ๆ กันเช่นนี้ เคยเกิดมาแล้วเมื่อ
๑๘ ปีที่แล้ว ผมได้เคยเล่าไปแล้วเกิดในสมัยที่ผมยังรับราชการอยู่กองทัพภาคที่
๔ และได้ปฎิบัติการในฐานะแม่ทัพภาคที่ ๔ ส่วนหน้า ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเวลานั้นไม่ใช่แค่
๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่เกิดใน ๕ จังหวัดคือ ปัตตานี นราธิวาส ยะลา สตูล
สงขลา และอีก ๓ อำเภอ พวกก่อการร้ายมีถึง ๓ พวกคือ ขบวนการโจรก่อการร้ายแบ่งแยกดินแดน
(แบ่งย่อยออกไปอีก ๓ พวก) โจรจีนคอมมิวนิสต์
(แบ่งย่อยไปอีก ๒ พวก) และพวกผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์
ที่หลงเหลือจากการปราบปรามของ แม่ทัพ หาญ ลีลานนท์
เหลือพอเป็นกระสายยา แต่ผลที่สุดการปราบปรามก็จบสิ้น ด้วยการให้โจรจีนออกจากป่ามาสู่เมือง
ขบวนการโจรก่อการร้าย ฯ ถูกสับหาง คำว่า "แบ่งแยกดินแดน" ออกไป จะเหลือแต่ก็โจรก่อการร้าย
หรือโจรห้าร้อย วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๓๐ ผมจบภารกิจ ผมได้ย้ายมาอยู่ในกรุง ฯ
กับเขาบ้างหลังจากเร่ร่อนอยู่ต่างจังหวัดนานถึง ๓๐ ปี ทางกองทัพภาคที่ ๔ ส่วนหน้า
ก็ปิดกองบัญชาการเพราะจบภารกิจแล้ว และกลับมาเปิดใหม่เมื่อ มกราคม ๒๕๔๗ เพราะขาดความต่อเนื่องในการปฎิบัติการ
ที่ยกเอามาเล่าซ้ำอีกเพราะ หาดใหญ่เมื่อ ๑๘ ปีที่แล้ว ที่มีเหตุร้ายแรงเกิดขึ้นเช่นเดียวกันนี้
ทำให้ตลาดหาดใหญ่ซบเซาไปบ้าง แต่เป็นระยะเวลาเพียงสั้น ๆ และสื่อมวลชนทราบข่าวที่แน่นอน
จากการให้ข่าวของฝ่ายทหาร การปฎิบัติการเด็ดขาด
เพราะแม่ทัพภาคที่ ๔ ส่วนหน้า มีอำนาจมาก สามารถสั่งการได้กับหน่วยราชการทุกหน่วย
เพราะมีอำนาจของ กอ.รมน. อยู่ในมือด้วย คือ เป็นแม่ทัพด้วย เป็น ผอ.กอ.รมน.
ด้วย ผู้ว่าทุกจังหวัด ฝ่ายตำรวจ และทหารทุกเหล่าจะให้ความร่วมมือหมด และเป็นการให้อำนาจไว้ตั้งแต่ยามปกติ
คือ ไม่ใช่รอจนมีเหตุแล้วจึงให้อำนาจ การปฎิบัติการจึงรวดเร็วและเด็ดขาด สถานการณ์เลวร้ายอยู่ไม่นานก็กลับสงบ
ผมเขียนเล่าให้ฟังนะครับ ไม่ได้ไปว่าใคร เดี๋ยว บก.ฯ จะพลอยเดือดร้อนไปด้วย
ลองใช้การเข้าให้ถึง ศาสนา วัฒนธรรม การพัฒนา และแถมเอากีฬาเข้าไปด้วย (ผมเป็นนายกสมาคมปัญจักสิลัติแห่งประเทศไทย
คนแรก ขณะอยู่ที่ปัตตานี)
เป็นคำรำพึงรำพันของคนสูงอายุ (ไม่ใช่คนแก่)
คราวนี้ผมไปหาดใหญ่ ไปในฐานะกรรมการกลางเพื่อตัดสินการแข่งขัน การทำอาหารของรายการครัวคุณ
หรีด อร่อย x ๓ ซึ่งจัดการชิงแชมป์ของภาคใต้ (ภาคเหนือ อีสาน ชิงไปแล้ว)
ผลปรากฎว่า จังหวัดปัตตานี ได้แชมป์ของภาคใต้ อาหารที่ส่งเข้าแข่งขันคือ
"นาซี ตาแฆ" นาซิ แปลว่า ข้าว ตาแฆ แปลว่า เขียง แต่เป็นข้าวราดแกงนี่แหละ
สมัยที่ผมอยู่ปัตตานี ผมออกไปซื้อกินที่ตลาดปัตตานีเป็นประจำ แต่รสชาติของตลาดปัตตานีกับที่ทำมาประกวดในครั้งนี้
ผิดกันไกลเลยทีเดียว เขาบอกที่ตั้งของร้านอาหารให้เหมือนกันแต่จำยาก ต้องรอผมไปเยี่ยมร้านเขาก่อนแล้ว
จะเอามาเล่าให้ฟัง
จบการแข่งขันการทำอาหารได้แชมป์ภาคใต้แล้ว ก็เตรียมจัดการให้ทุกทีมที่เป็นแชมป์ภาคคือ
ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคใต้ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และกรุงเทพ ฯ มาแข่งขันกันที่คาร์ฟูร์
กรุงเทพ ฯ อยู่ที่ถนนลาดพร้าวใกล้ ๆ บ้านของผม ในวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๘
ทีมไหนชนะก็รับสตางค์ไป ห้าแสนบาท และจะส่งไปอบรมที่คาร์ฟู ฝรั่งเศส พร้อมทั้งให้นำอาหารที่ประกอบจำหน่ายในห้างคาฟูร์ด้วย
ทีมที่ ๒ ที่ ๓ ก็ได้เงินลดหลั่นกันลงมาตามลำดับ
ผมไปหาดใหญ่ ไปพักนอกรายการของครัวคุณหรีด อยู่ ๒ วัน โดยพักที่ โนโวเทล เซ็นทรัล
สุคนธา โรงแรมนี้ตั้งอยู่กลางกรุง เหตุที่ชื่อยาวเหยีด เพราะสมัยที่ผมรับราชการอยู่ที่อำเภอทุ่งสง
นครศรีธรรมราช นั้น ผมไปเที่ยวหาดใหญ่ กับภูเก็ต ไปบ่อย ๆ ไปหาอาหารอร่อย
ๆ กิน ตอนนั้นชื่อโรงแรมสุคนธา ดูเหมือนะจมีโรงแรมเดียวที่ชื่อไทยแท้ ใกล้กันมีชื่อจีน
ยงดี ทั้งสุคนธาและยงดี ยังอยู่ทั้งสองโรงแรม แต่สุคนธานั้น ต่อมาอยู่ในเครือของเซ็นทรัล
เลยเพิ่มชื่อเป็น เซ็นทรับ สุคนธา เป็นการรักษาชื่อเดิมเอาไว้
ไปเที่ยวนอกเมืองเสียก่อน ใครจะคิดว่าหาดใหญ่มีน้ำตกสวยงามมากด้วย และอยู่ไม่ไกลจากตัวหาดใหญ่
น้ำตกโตนงาช้าง
อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า โตนงาช้าง
เส้นทางไปน้ำตกโตนงาช้าง ไปจากตัวอำเภอหาดใหญ่ไปตามถนนสาย ๔ คือ ไปตามเส้นทางที่มาจากพัทลุงนั่นเอง
คงวิ่งไปตามสาย ๔ ดูหลัก กิโลเมตร จะบอกไปรัตภูมิ วิ่งไป ๑๓ กิโลเมตร จะถึงทางแยก ให้เลี้ยวซ้ายมีป้ายบอกทางว่าไป
โตนงาช้าง เลี้ยวซ้ายเข้าไปอีก ๑๓ กิโลเมตร จะถึงด่านเข้าน้ำตก ลงไปจ่ายสตางค์เสียโดยดี
คนละ ๒๐ บาท และรถคันละ ๓๐ บาท เด็ก ๑๐ บาท วิ่งต่อไปจนถึงลานจอดรถมีที่จอดรถกว้างขวาง
ขอบทางตรงไหล่เขากลายเป็นร้านอาหารมากมายร่วม ๑๐ ร้าน ผมไปครั้งสุดท้ายกว่า
๑๕ ปีมาแล้ว และยังมีกำลังขามากกว่าปัจจุบันนี้หลายเท่า เดินขึ้นไปยังน้ำตกโตนงาช้าง
ได้อย่างสบาย แต่ไปวันนี้ขึ้นได้แค่ชั้นที่ ๒ คือ น้ำตกโตนปลิว
น้ำตกโตนงาช้างนั้น ต้องเดินไปตามทางคอนกรีต เดินสบาย ๆ ข้ามลำธารที่มีสะพานคอนกรีตทอดข้ามไว้
ทีนี้ต้องเดินขึ้นไปตามไหล่เขา ซึ่งจะมีทางเดินอย่างสบาย ๆ ไปจนถึงโตนบ้า
จากนั้นเป็นทางเดินธรรมชาติ แต่ก็เดินได้อย่างสบาย ๆ ลองผมบอกว่าผมเดินสบาย
ๆ ละก็ท่านผู้อ่านเป็นเดินมหาสบาย ไต่เขาไปจนถึงน้ำตกโตนปลิวที่สูงพอควร และสวยมาก
น้ำตกโตนงาช้างนี้จะมีน้ำตลอดปี ยิ่งในเดือนธันวาคมา แล้งของภาคอื่นแต่น้ำท่วมของภาคใต้
ไปวันนี้พอถึงน้ำตกโตนปลิว ก็พิจารณาตัวเองว่า เราไม่สมควรขึ้นไป จะได้กลับมาอีกสักที
แต่คราวต่อไปคงจะมาแค่น้ำตกโตนบ้า คงจะพอ เพราะเมื่อมาครั้งสุดท้ายนั้น ได้ขึ้นไปถึงน้ำตกโตนงาช้าง
ซึ่งต้องขึ้นไปอีก ๔๕๐ เมตร ส่วนอีก ๔ ชั้น ต่อไปนั้นผมยังไม่เคยขึ้น เพราะมาโตนงาช้างช้าเกินไป
แต่เร็วพอที่จะได้กิน ไก่กอและที่มาย่างขายกัน
แถวลานสู่น้ำตกนี่แหละ เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้วมีแต่ร้านอาหารแทน
จากชั้น ๓ ที่เรียกว่า โตนงาช้าง จะขึ้นต่อไปยังชั้นที่ ๔ เรียกว่า โตนดำ
ระยะทาง ๔๐๐ เมตร ตอ่ไปยังชั้นที่ ๕ ชื่อ โตนน้ำปล่อย
ระยะทาง ๑ กิโลเมตร ชึ้นที่ ๖ ชื่อ โตนฤาษีคอยบ่อ
ระยะทาง ๑,๓๐๐ เมตร ชั้นที่ ๗ ซึ่งเป็นชั้นสุดท้ายชื่อ โตนเหม็ดขุน
ตั้งแต่ชั้นที่ ๒ ขึ้นไปทางเดินจะยากลำบากขึ้นทุกที แต่ชั้นที่สวยที่สุด และมีลักษณะเป็นงาช้างคู่
เพราะกระแสน้ำไหลผ่านหิน แล้วพุ่งแยกออกเป็นสองสาย ส่วนตรงกลางระหว่างสายน้ำโนกนูน
ออกมาเหมือนหัวช้างจึงตั้งชื่อว่า โตนงาช้าง น้ำจะพุ่งออกมาเป็นสองสายแทบตลอดปี
เว้นตอนแล้งมากน้ำอีกสายหนึ่ง อาจจะไหลลงมาน้อย หากไปตอนนี้ก็กลายเป็นช้างงาเดียวไป
หาดใหญ่วันนี้ แม้คนเที่ยวจะน้อยลงไปเพราะไปกลัวเหตุการณ์ใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้
แต่ก็ต้องถือว่ามาก น่าจะมากกว่าสมัยที่ผมรับราชการอยู่ภาคใต้ เพราะความเจริญมากยิ่งขึ้น
ถนนบางสายกลายเป็นถนนอาหาร ต้องเรียกว่า ถนนสายอาหารสายใหม่เลยทีเดียว แหล่งซื้อของจับจ่ายมีมากขึ้นตามย่านเหล่านี้
ไม่ใช่แน่นที่ในร้าน ยังแน่นบนบาทวิถีทางเดินเท้าขายกันเต็มไปหมด พอสรุปแหล่งจับจ่ายได้ดังนี้
ตลาดสันติสุข
แหล่งช๊อปปิ้งเก่าแก่ ติดถนนนิพัทธ์อุทิศ ๒ และ ๓ ถนนสำคัญเก่าแก่ของหาดใหญ่
คือ ถนนที่ชื่อนิพัทธ์อุทิศ ซึ่งมี ๓ สาย
สาย ๑ วิ่งไปจนถึงแยกที่ ๒ เลี้ยวขวาคือ สถานีรถไฟหาดใหญ่จะเป็นจุดอ้างของผม
วิ่งไปสุดทางจะไปตัดกับถนนศรีภูวนารถ หากเลี้ยวซ้ายแล้วเลี้ยวซ้ายอีกที ก็จะเข้าถนนนิพัทธ์อุทิศ
๒ วิ่งตรงเรื่อยไป (ถนนเดินทางเดียวทุกสาย) จนไปชนกับแหล่งจับจ่ายอีกแหล่งหนึ่งคือ
ตลาดกิมหยง ก็เลี้ยวขวากลับมาเข้าถนนนิพัทธ์อุทิศ
๓ ซึ่งจะวิ่งตรงมาจนบรรจบกับถนนศรีภูวนารถเช่นกัน ซึ่งหากมาตามถนนสายนี้พอถึงทางสี่แยกหากเลี้ยวซ้าย
(แต่เลี้ยวไม่ได้ รถเดินทางเดียว) คือ มาเข้าถนนเสน่หานุสรณ์ ที่ตั้งของโรงแรม
และห้องอาหารที่จะพาไปชิมในวันนี้
ตลาดสันติสุข มี ๓ ชั้น ขายเครื่องไฟฟ้าเป็นหลัก มีทุกยี่ห้อที่ดัง ๆ และทุกยี่ห้อที่ปลอม
ๆ ราคาถูกกว่าตามห้าง
ตลาดกิมหยง
เมื่อก่อนนี้สมัยที่ผมไปอยู่ใต้ใหม่ ๆ ชื่อ ตลาดเฉลิมไทย
เพราะมีโรงภาพยนตร์ ชื่อ เฉลิมไทยอยู่ชั้นบน ต่อมาเลิกฉายภาพยนตร์แบ่งเป็นคูหาเล็ก
ๆ ให้เช่าขายของรวยกว่า ยกป้ายว่าตลาดกิมหยง ชื่อดั้งเดิม ชั้นบนจะขายเครื่องไฟฟ้า
นาฬิกา เครื่องคิดเลข เป็นส่วนใหญ่ มีเสื้อผ้าบ้าง ชั้นล่างเป็นตลาดหนักไปทางของกิน
และท้ายตลาดเป็นตลาดสด ทางเท้าหน้าาตลาดข้างตลาดทุกด้านแผงลอย ตั้งกันเต็มไปหมด
แทบจะไม่มีเหลือที่ไว้ให้เดิน
แหล่งช๊อปปิ้งขนาดใหญ่ ก็อยู่ในย่านสองตลาดนี้ ที่ช่วยให้มีมากมายก็คือ
แผงลอยตามทางเท้า มากมายก่ายกองเหลือเกิน ทำให้มีสินค้าที่จะจับจ่ายในราคาย่อมเยา
ต่อรองกันได้ทุกเจ้าไป ซอกเล็กซอกน้อย มีแต่ร้านอาหารและแผงขายของเต็มไปหมด
ร้านอาหารใหม่มีมากตามชิมไม่ไหว ไปทีไรส่วนใหญ่จะตามชิมกัน ตามร้านเก่าแก่ที่ตั้งมานานเกินกว่า
๑๐ ปี และยังอยู่ดีแถมเจริญรุ่งเรือง หลายร้านเปิดสาขาแยกไปอีกต่างหาก ไปนอนหาดใหญ่
กินสนุก ซื้อของสนุก และเที่ยวสนุก ซึ่งส่วนใหญ่จะต้องออกไปเที่ยวนอกตัวอำเภอ
เช่น ไปน้ำตกโตนงาช้าง น้ำตกโตนปลิว ไปสวนพฤกษศาสตร์วรรณคดีภาคใต้
ไปเดินสวนปามล์ และต้นไม้ในวรรณคดี ทั้งน้ำตกโตนปลิว และสวนพฤกษศาสตร์ ฯ อยู่เลยทางเข้าน้ำตกโตนงาช้างไป
ไปวัดหาดใหญ่ใน
ตั้งอยู่ในซอยเพชรเกษม ๒๖ ภายในวัดประดิษฐานพระพุทธหัตถมงคล ซึ่งเป็นพระพุทธไสยาสน์
หรือพระนอนขนาดใหญ่ ยาว ๓๕ เมตร กว้าง ๑๐ เมตร ชาวหาดใหญ่เคารพนับถือมาก
ไปเที่ยวสวนสาธารณะหาดใหญ่
ข้ามไปไม่ได้ หากเป็นนักเที่ยวกิน ไปเที่ยวที่สวนสาธารณะแห่งนี้ได้รับความร่มเย็น
ได้นมัสการพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ คือ พระพุทธมงคลมหาราช
เส้นทางไปสวนสาธารณะ หากไปจากหาดใหญ่ไปตามถนนที่จะไปยังสงขลาสายเดิม จนสุดทางให้เลี้ยวซ้าย
หากเลี้ยวขวาจะไปยังอำเภอสะเดา (มีเส้นทางไปอีกหลายเส้นทาง เส้นนี้เก่าแก่
บอกทางง่าย) เมื่อเลี้ยวซ้ายแล้วก็ผ่านค่ายทหารค่ายเสนาณรงค์
ที่ตั้งของโรงพยาบาลค่าย และมณฑลทหารบก มาผ่านกองพันทหาราบ ล้วนแต่อยู่ทางขวามือ
ต่อจากนั้นจะถึงทางเข้าประตูแรกของสวนสาธารณะ หากเลี้ยวเข้าประตูนี้ตามป้ายจะไปตามถนนที่สู่บนเขา
ถนนลาดยางอย่างดี กว้างพอรถสวนกันได้สบาย ๆ เมื่อขึ้นไปแล้วก็จะถึงศาลพระโพธิสัตว์กวนอิม
ปางประทานพร สร้างด้วยหินหยก สีขาว ซึ่งศาลนี้นายกเทศมนตรีหาดใหญ่ คนที่เป็นนานที่สุดและหลายสมัย
(ตอนนี้ไม่ได้เป็นแล้ว) พร้อมด้วยคณะเทศมนตรี พ่อค้า ข้าราชการ ร่วมใจกันสร้างถวายในหลวง
ที่ครองราชย์สมบัติครบ ๕๐ ปี
องค์พระโพธิสัตว์ ประทับเด่นอยู่ตรงกลางและล้อมรอบฐานด้วย พระโพธิสัตว์กวนอิมองค์เล็กอีก
๙๐๐ แงค์ ทำให้ดูศักดิ์สิทธิ์มากขึ้น
ภายในอาคารยังมีเซียนประจำแปดทิศ เช่น ท้าววิรุฬหก ท้าววิรุฬปักษี ท้าวกุเวร
เป็นต้น
ทางด้านขวาของศาลคือ ร้านขายดอกไม้ ธูปเทียน ขายของที่ระลึก ขายรูปหล่อเจ้าแม่
ฯ มีเทปเพลงสวดแบบธิเบต ซึ่งไพเราะมาก ผมชอบซื้อเอาไว้ฟังเวลาขับรถ ทำให้ใจเย็น
ไม่ขับแข่งสู้กับรถกระบะ
จากลานพระโพธิสัตว์ ไปทางขวา รถวิ่งขึ้นได้สะดวก เพื่อขึ้นไปนมัสการพระพุทธรูปประจำเมืองหาดใหญ่
คือ พระพุทธมงคลมหาราช ซึ่งพระพุทธรูปองค์นี้สร้างไว้บนยอดเขา บอกว่าเป็นพระพุทธรูปปางประทานพร
ที่หุ้มทองคำ "ใหญ่ที่สุดในโลก" เป็นพระพุทธรูปที่งดงามมากจริง ๆ
กลับลงมาจากยอดเขา แล้วเลี้ยวขวาออกไปจากสวน เพื่อไปเข้าประตูที่สองที่อยู่เลยไปอีกหน่อยหนึ่ง
หากเข้าสวนสาธารณะทางประตูที่สองนี้ ก็จะมีทางเลี้ยวขวาขึ้นเขาไปยัง ศาลพระพรหม
ที่สร้างอยู่บนเขารถขึ้นสะดวก แต่หากเข้าไปแล้วเลี้ยวซ้ายผ่านสระน้ำ และสวนที่สวยริมน้ำ
เลยต่อไปก็จะถึงลานพระบรมรูป รัชกาลที่
๕ ที่สร้างพระบรมรูปเอาไว้บนเชิงเขา ประทับนั่ง
อาหาร ผมได้บอกแล้วว่า ร้านอาหารในหาดใหญ่ตั้งแต่ผมย้ายจากใต้มา ๑๗
ปีแล้ว แต่ก็ไปหาดใหญ่ทุกปี ยังติดตามไม่ทันการเกิดใหม่ของร้านอาหาร วันนี้ขอเล่าทั้ง
๓ มื้อ เลยทีเดียว
มื้อเช้า ในโรงแรม มีเหมือนโรงแรมใหญ่ ๆ ทั่วไป แต่ที่นี่มีมุมอาหารฮาราล
คือ โรตี มะตะบะ แต่ที่งดไปคือ "การชักชา" เสียดายเลิกไปเสียแล้ว แต่ถามดูว่าจะเปลี่ยนเวลาเป็น
ชาบ่าย จึงจะชัก ไม่ทราบว่า ตอนนี้มีแล้วหรือยัง
นอกโรงแรม แนะนำบ่ะกุ๊ดเต๋ มีหลายร้าน อยู่ถนนนิพัทธ์อุทิศ ๓
มื้อกลางวัน ร้านยังอยู่ดี อร่อยเหมือนเดิม อาหารจีนไม่ใช่อาหารลาว
ถนนนิพัทธ์อุทิศ ๒ อร่อยสุด ๆ คือ อาหารที่มีเกี๊ยมไฉ่
มื้อเย็น ข้าวต้ม มีหลายร้านเก่าแก่ ใกล้กันต้นตำรับข้าวต้มเซาะฮึ้ง
มีถึง ๓ ร้าน
ทีนี้มาร้านที่ชวนชิม ในวันนี้ ผมไปถึงที่พักคือ โรงแรมเดิม ตั้งใจจะไปชิมตามร้านเก่าแก่
แต่พอผ่านห้องอาหาร ดูแล้วเข้าตากรรมการ ถามเขาบอกว่า พึ่งเปิดห้องอาหารนี้
มีอาหารตามสั่ง และอาหารบุฟเฟต์ ด้วย คือ เย็นวันศุกร์ จะเป็นอาหารบุฟเฟต์เวียตนาม
ในร้านจะแต่งกายเวียดนามหมด พอตกเย็นวันเสาร์ก็เป็นบุฟเฟต์ญี่ปุ่น ลืมจำไปว่าแต่งตัวเป็นสาวญี่ปุ่นหรือเปล่า
ผมกินอาหารเย็น เป็นห้องอาหารเอเชี่ยน มีทั้งอาหารจีน ไทย ญี่ปุ่น เมื่อก่อนเขาแยกห้องจีน
ห้องญี่ปุ่น ห้องอาหารมุสลิมฮาราลออกไป คนมาเลย์เซีย และสิงคโปร์ เวลาจะกินอาหาร
บางทีต้องไปสั่งต่างห้องมาให้ เขาเลยเปิดห้องอาเชียนขึ้นมามีหมด จีน ญี่ปุ่น
แขก ไทย สั่งได้ที่ห้องนี้ จัดห้องอาหารได้เก๋ไก๋มาก อร่อยตั้งแต่เข้าไปนั่งแล้ว
เสริฟน้ำขิงให้ดื่ม
เครื่องดื่มที่ควรสั่ง (ผมไม่ได้สั่งซดน้ำขิงร้อน ๆ) คือ น้ำผลไม้ และน้ำแคตาลูป
"ไทย" สั่งไก่ชุบงาทอด จานนี้ได้รางวัลจากการท่องเที่ยวมาแล้ว ในรายการอาหารไทย
สร้างสรรค์ ใช้เนื้อกุ้งสับจนละเอียด เหนียวหนึบแล้วคลุกด้วยเครื่องเทศ แล้วใช้หนังไก่ห่อ
ชุบงาเอาไปทอดจนหนังกรอบ นุ่มใน กินกับซ๊อส xo. ที่ปรุงเอง คล้ายน้ำพริกเผา
ใช้กุ้งกับซ๊อสเอกซ์โอ รสเผ็ดนิด หอม เคี้ยวสนุกกินแล้วหยุดไม่ได้ "จีน"
หอยเชลล์สดผัดเสฉวน ในรับเผือก คือผัดแล้วใส่ในตะกร้าที่ทำด้วยเผือกทอดกรอบ
กินตะกร้าได้เพิ่มรสชาติ วางรังเผือกบนหมี่ขาวทอด ผัดมากับพริกยักษ์ เห็ดหอม
แครอท ผัดแบบจีน อย่าลืมแกะรังเผือกมากิน
หัวปลาแซลมอนย่าเกลือ จานเด็ดอีกจานหนึ่ง "เป็นญี่ปุ่น" ปลาแซลมอนนั้นสั่งมาจากนอร์เวย์ตัวโต
หัวปลาก็โตตามไปด้วย เขาว่าใครเป็นประธานให้แคะตาปลากินเสียก่อน เพราะจะมันมาก
ผมใช้สิทธิ์
แซลมอนสลัด ใช้แซลมอนสดยำแบบไทย แซลมอนสีแดงอ่อน พริกแดง พริกชี้ฟ้าสลักเป็นดอกไม้
ปลากะพงทอดราดซีอิ้ว ปลากะพงจากทะเลสาบสงขลา อย่าข้ามจานนี้ไป เป็นอีกจานหนึ่งที่อยากให้ชิม
อาหารราคาไม่แพง ต้องถือว่าถูกสำหรับราคาของห้องอาหารโรงแรม เทียบราคาแล้วพอ
ๆ กับภัตตาคารข้าล่าง ใครก็ขึ้นมากินอาหารห้องนี้ได้ บัตรเครดิตก็รับ ไม่ต้องอยู่ช่วยล้างชาม
ปิดท้ายด้วยขนมหวาน คือ ขนมไทรวมใส่มาในจานเดียวกัน มีทองหยิบ สังขยา บ้าบิ่น
ขนมหม้อแกง ทองหยอด อร่อยทุกอย่าง มีใส่กล่องขายด้วย ที่ชั้นล่างตรงจุดที่จอดรถ
ยิ่งไปซื้อหลังสองทุ่มยิ่งดี เรียกว่า พออิ่มอาหารค่ำ ลงมาซื้อที่ตรงนี้มีทั้งขนมไทย
ขนมปัง เค้ก พาย ฯ แต่ที่ผมบอกให้ลงมาซื้อหลังสองทุ่ม เขาทั้งลดทั้งแถม ซื้อ
๑ กล่อง แถม ๑ กล่อง ซื้อกันสนุกไป
....................................................
|