เที่ยวเมืองจันท์
เมื่อเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๐ จังหวัดจันทบุรี มีงานมหกรรมทุเรียนโลก จัดงานที่ริมทางเดินรอบทะเลสาบที่ล้อมรอบ
ราชานุสาวรีย์ของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ผมได้รับเชิญจากพรรคพวกให้ไปเที่ยวงานนี้
ผมไม่ได้ไปจันทบุรีมานานพอสมควร ก็รับว่าจะไปในงานมหกรรมทุเรียนโลก แต่ไปแล้วก็ไม่กล้าจะชิมทุเรียนมากนัก
เพราะร่างกายของผู้เฒ่า ไม่เหมาะกับผลไม้ชนิดนี้ และเป็นผลไม้ที่อร่อยกินแล้ว
จะหยุดไม่ได้จนกว่าจะหมดลูกนั่นแหละ และดับกลิ่นเสียด้วยมังคุดที่กำลังออกผลดก
ในฤดูเดียวกับที่ทุเรียนออกสู่ตลาด รวมทั้ง ลองกอง สละ เงาะ จะออกมาพร้อม
ๆ กัน ไปจันทบุรีในช่วงเดือนนี้ จะอุดมด้วยผลไม้สด และราคาถูกยิ่งกว่าฤดูอื่น
แต่การเกษรของเรานั้นก้าวหน้าไปมาก จนสามารถหาผลไม้แทบจะทุกชนิดกินได้ทุกฤดูกาล
สามารถทำผลไมให้ออกนอกฤดูกาลได้ ไม่ว่าจะเป็นมะม่วง ทุเรียน ฯ
ผมออกเดินทางจากบ้านที่ลาดพร้าว ประมาณ ๐๗.๓๐ กะไปกินอาหารกลางวันที่จันทบุรี
การไปจันทบุรีเดี๋ยวนี้ หากไปให้ถูกเส้นทางแล้ว จากกรุงเทพ ฯ - สู่จันทบุรี
"จะใช้เวลาเพียง ๒ ชั่วโมงเศษ บนถนน ๔ เลน สายสุขุมวิท" แต่ผมไม่ได้ไปตามถนนสุขุมวิทตลอดเส้นทาง
พอออกจากบ้านก็ขึ้นทางด่วนสายรามอินทรา เสียไป ๓๐ บาท แล้วเข้าตามป้ายไปชลบุรี
รับบัตรผ่านทางด่วน ยังไม่ต้องจ่ายสตางค์ไปจ่ายที่ปลายทาง เมื่อตอนลงจากทางด่วน
ใช้เวลาวิ่งตั้งแต่ออกจากบ้าน จนลงทางด่วนประมาณ ๔๕ นาทีเท่านั้น ตอนลง
ๆ ที่สุดทางคือ เลยทางแยกไปแปดริ้วที่บางปะกงไปแล้ว จ่ายอีก ๕๕ บาท รวมค่าทางด่วน
๘๕ บาท เมื่อลงจากทางด่วนแล้ว วิ่งมุ่งหน้าเข้าเมืองแต่ให้วิ่งตามเส้นทางคู่ขนาน
แล้วเลี้ยวตามป้ายเข้าถนนบายพาส ก่อนเข้าย่านชุมชนของชลบุรี ผ่านแยกแรกอย่าเผลอเลี้ยวไป
เพราะเลี้ยวนี้จะไปพนัสนิคม ให้เลี้ยวที่แยกที่สอง ตามป้ายไปยังบ้านบึง -
แกลง ตามถนนสาย "๓๔๔ ชลบุรี - แกลง" เมื่อเข้าสาย ๓๔๔ แล้ว ก็จะไปผ่าน
อ.บ้านบึง อย่าตรงเข้าไป วิ่งแยกขวาไปแกลงเลย ตอนผ่านอำเภอวังจันทร์ กำลังมีงาน
"เทศกาลผลไม้" เป็นงานที่จัดพร้อมงานมหกรรมทุเรียนโลกของตัวจังหวัด จัดกันริมทางหลวงประมาณ
กม.๘๔ - ๘๕ เมื่อผ่านแกลงไปแล้ว ประมาณ กม.๓๐๒ จะมีเส้นทางแยกขวาจากถนนสุขุมวิทไปยัง
อ่าวคุ้งวิมาน อ่าวเจ้าหลาว อ่าวคุ้งกระเบน และแหลมเสด็จ ซึ่งมีที่พักและร้านอาหาร
ระยะทางแกลง - จันทบุรี ประมาณ ๖๐ กม. รวมแล้วจากกรุงเทพ ฯ ไปตามเส้นทางนี้
ระยะทางรวมประมาณ ๒๕๐ กม. วิ่งสบาย ๆ ๒ ชั่วโมงเศษ ไปถึงเมืองจันท์ยังไม่ทันเที่ยง
เลยวิ่งออกนอกเมืองไปก่อน มุ่งหน้าไปทาง จ.ตราด เพื่อไปเที่ยวน้ำตกพลิ้ว จังหวัดจันทบุรี
นั้น มีอุทยานแห่งชาติ ๒ แห่งคือ
อุทยานแห่งชาติเขาคิชกูฎ
อยู่ในท้องที่ กิ่ง อ.เขาคิชกูฎ และอำเภอมะขาม เป็นต้นน้ำสำคัญ ของแม่น้ำจันทบุรี
มีน้ำตกกระทิง
ยอดเขาพระบาทมี "ศิลาเจดีย์"
ฯ
อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว
อยู่ในเขตอำเภอแหลมสิงห์ บนเทือกเขาสระบาป "พลิ้ว" เป็นภาษาซอง (ซอง คือ ชนกลุ่มแรก
ๆ ที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานในบริวเณจันทบุรี) แปลว่า "ทราย" จุดท่องเที่ยวคือ
น้ำตกพลิ้ว อยู่ห่างจากที่ทำการ ฯ สัก ๒๐๐ เมตร มีน้ำตกตรอกนอง
ห่างจากหน่วยพิทักษ์อุทยานประมาณ ๕๐๐ เมตร
เมื่อผ่านโรงแรมมณีจันท์ ที่อยู่ริมถนนไปแล้ว ก็จะผ่านปั๊มเชลล์ หากเลี้ยวขวาตรงนี้
ก็จะเข้าเมืองจันท์ได้อีกเส้นทางหนึ่ง พ้นจากจุดเลี้ยวจุดนี้ไปก็ถือว่า ออกนอกเมืองมุ่งหน้าไปยัง
น้ำตกพลิ้ว ไปตราด แต่หากมีเวลาไม่ควรข้ามไปคือ การเข้าไปเที่ยว "วัดทองทั่ว
และเมืองเพนียต" (เพนียด แปลว่า คอกช้าง เพนียต แปลว่า ทำนบกั้นน้ำ
และต้องมีกำแพงให้คนเดินได้ด้วย)
วัดทองทั่ว และเมืองเพนียต
เลี้ยวจากถนนสุขุมวิท ที่ กม.๓๓๘ เลี้ยวขวาเข้าไปประมาณ ๑ กม. เป็นแหล่งอนุรักษ์กระเบื้องโบราณ
ในอุโบสถมีพระพุทธรูป สุวรรณมงคล (หลวงพ่อทอง) มีพระโกศ สันนิษฐานว่า
เป็นพระอัฐิของพระเจ้าตากสิน มีสิงห์ศิลาโบราณอยู่หน้าอุโบสถ ๑ ตัว มีเสมาคู่รอบพระอุโบสถ
ซึ่งแสดงว่า น่าจะเคยเป็นพระอารามหลวง และที่น่าจะสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่
๔ คือ อุโบสถเก่าหลังนี้ มีลายปูนปั้น ประดับเป็นซุ้มโค้งเหนือกรอบประตูหน้าต่าง
มีทับหลังที่เดิมเคยอยู่ในอุโบสถ แต่ไปคราวนี้วัดตั้งพิพิธภัณฑ์แล้ว จึงนำเอาทับหลัง
แบบถาลาบริวัต ซึ่งเป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมของขอม ถือว่าทับหลังชิ้นนี้ เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย
และยังมีทับหลังแบบ ไพรกเมง เสาอิงประดับกรอบประตูศิลปะ นครวัด ตอนปลาย
เมืองเพนียต
ออกจากวัดทองทั่ว แล้วเลี้ยวขวาไปประมาณ ๕๐๐ เมตร จะถึงเมืองเพนียต มีบ้านราษฎรอยู่ติดกับ
"บาราย" หรือสระน้ำ ๒ - ๓ หลัง เหลือแต่ซากของ "บาราย" ยังมีน้ำอยู่ในสระ
มีอายุประมาณ พ.ศ.๑๔๐๐ - ๑๖๐๐ เมืองนี้ได้รับอิทธิพลจากขอมโบราณ จีนเรียกว่า
"เจิง ลี ฟู" เมื่อก่อนทะเลมาติดเมืองเพนียต จึงมีการค้าขายกับจีนและอินเดีย
เมืองนี้จึงมีปราสาทหินเก่าแก่ เป็นอาณาจักรมาแต่โบราณ
ทับหลังสมัยถาลาบริวัตที่พิพิธภัณฑ์วัดทองทั่ว อายุ ๑,๔๐๐ ปี เป็นการยืนยันว่าอาณาจักรจันทบูรนั้นต้องมีปราสาทหินจันทบูร
ซึ่งอายุมากยิ่งกว่าทับหลังของปราสาทหินทุกแห่งในประเทศไทย ทับหลังสมัยถาลาบริวัตรพบทั้งหมดในย่านนี้จำนวน
๖ ชิ้น อายุ ๑,๔๐๐ ปี พบ ๓ ชิ้น ๑ ชิ้นอยู่ที่วัดทองทั่ว อีก ๑ ชิ้นที่สมบูรณ์ที่สุดอยู่ที่วัดบน
ต.บ่อพุ อ.ท่าใหม่ อีกชิ้นอยู่ที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ กรุงเทพ ฯ
ทับหลังสมัยไพรกเมง อายุ ๑,๓๐๐ ปี อยู่ที่วัดทองทั่ว ทับหลังสมัยปาปวนอายุ
๙๐๐ ปี มีอยู่ ๒ ชิ้น อยู่ที่วัดโบสถ์ อ.เมือง และ อีก ๑ ชิ้น อยู่ที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ
ปราจีนบุรี
หากนำอายุของปราสาทหินสำคัญในประเทศไทยมาลำดับอายุกันแล้วจะได้ดังนี้
ปราสาทจันทบูร อายุ ๑,๔๐๐ ปี ปราสาทหินพิมาย อายุ ๙๘๕ ปี
ปราสาทหินนครวัด ปราสาทหินเขาพนมรุ้ง ปราสาทหินเมืองต่ำ อายุประมาณ ๙๐๐ ปี
ปราสาทหินนครธม อายุประมาณ ๗๐๐ ปี ปราสาทหินอื่น ๆ อายุไม่เกิน ๖๐๐ ปี
หลังจากไปไหว้พระ ชมทับหลัง ดูซากเมืองเพนียดแล้ว ออกมาถนนสุขุมวิทเลี้ยวขวาเดินทางต่อไปจนถึง
กม.๓๔๗ ก็เลี้ยวซ้ายเข้าไปประมาณ ๑ กม.ก็จะถึงลานจอดรถที่ทางอุทยานจัดไว้ให้รถจอดสำหรับรถของผู้ที่มาเที่ยวชมน้ำตกพลิ้ว
ซึ่งถือว่าห่างมาก ยิ่งผู้เฒ่าอย่างผมแค่เดินไปถึงด่านของอุทยาน ก็แทบจะหมดแรงแล้ว
จากลานจอดรถไปจนถึงด่านของอุทยาน (เสียค่าบำรุงคนละ ๒๐ บาท ส.ว.ไม่ต้องเสีย)
ระยะทางประมาณ ๔๐๐ เมตร จะมีร้านค้าเต็มไปหมด หลายร้านจะแขวนป้าย หรือถือป้ายจอดรถฟรีออกมาโบกมือเรียก
ได้ความว่าจอดฟรี แต่ต้องอุดหนุนอาหาร หรือเครื่องดื่มของเขาบ้าง
อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว เดิมชื่ออุทยานแห่งชาติสระบาป ประกาศตั้งเป็นอุทยาน เมื่อ
พ.ศ.๒๕๑๘ เป็นอุทยานแห่งชาติที่ ๑๑ แห่งประเทศไทย มีเนื้อที่ ๘๔,๐๖๒ ไร่ มียอดเขาสูงสุดชื่อเขาหว้ากรอก
สูงจากระดับน้ำทะเล ๙๒๔ เมตร เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารของคลองพลิ้ว คลองนารายณ์
คลองตรอกนอง และคลองมะกอก เป็นป่าดงดิบชื้นที่สมบูรณ์ มีพันธุ์ไม้สำคัญเช่น
ไม้กฤษณา ตะเคียน ประดู่ ตะแบก ขนุนป่า ฯ สัตว์ป่ามีชุกชุมมาก เพราะเป็นป่าที่มีแหล่งอาหาร
สัตว์และแหล่งน้ำที่สมบูรณ์ มีทั้งเลียงผา หมี เสือ เก้ง เม่น ลิง ค่าง ฯ
มีนกประจำถิ่นมากกว่า ๙๐ ชนิด และยังมีปลาชนิดต่าง ๆ อีกด้วย
น้ำตกพลิ้ว ใครไปอุทยาน ฯ แห่งนี้ต้องขึ้นไปเที่ยวน้ำตกพลิ้ว ซึ่งเป็นน้ำตกขนาดใหญ่
สวยงาม มีน้ำตกตลอดปี ปลายฝน ต้นหนาวยิ่งสวยมาก เพราะน้ำจะใส ตั้งแต่มีผู้ไปเล่นน้ำตกที่
จ.ตรัง ตายกันหลายสิบคนทำให้ทางอุทยานแห่งชาติจะห้ามเข้าไปยังน้ำตกในเวลาที่ฝนตกใหม่
ๆ หรือฝนกำลังตก พื้นน้ำที่ใสสะอาด จะมีปลาแหวกว่ายเช่นปลาพองหิน ไปเที่ยวน้ำตกแห่งนี้ยังจะได้เห็น
"อลงกรณ์เจดีย์และสถูปพระนางเรือล่ม"
อลงกรณ์เจดีย์สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๕ พ.ศ.๒๔๑๙ ส่วนสถูปพระนางเรือล่มสร้าง
พ.ศ.๒๔๒๔ เพื่อระลึกถึงพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี ภายในบรรจุพระอังคารของพระนาง
ฯ พระองค์ท่านเสด็จมาเมื่อ พ.ศ.๒๔๑๗ และทรงโปรดยิ่งนัก
ภาคเช้าวันนี้คงจะเที่ยวเมืองจันท์ได้แค่นี้ก่อน เป็นการเที่ยวในครึ่งวันแรกที่ผมมาถึงจันทบุรีคือ
เที่ยวน้ำตก เที่ยววัดทองทั่ว และเที่ยวเมืองโบราณ เมืองเพนียด
ออกจากน้ำตกพลิ้ว เลี้ยวซ้ายไปจนถึง กม.๓๕๕ เลี้ยวขวาเข้าร้านอาหารทันที ร้านอยู่ทางขวา
พอถึง กม.๓๕๕ ก็เลี้ยวเข้าไปจอดหน้าร้านได้เลย ส่วนทางขวาของร้านคือร้านอาหาร
เป็นศาลาโปร่ง เย็นสบาย มีตู้อาหารสำเร็จรูปตั้งเอาไว้เร่งด่วน ไปชี้เอาข้าวราดแกงได้ทันที
แต่ผมมีเวลาจึงเป็นอาหารตามสั่งรสไทย ผสมกับอาหารที่ไปซื้อเอาจากในตู้ ประเภทอาหารจานเดียวก็มี
สั่งมาคือ
ข้าวคลุกน้ำพริกเกลือ ข้าววางมาเป็นรูปถ้วย มีปลาหมึก กุ้ง หมูลวก แตงกวา
น้ำพริกปลา รสไม่จัด ต้องเติมเสียด้วยน้ำปลาพริกลงไปนิดหนึ่งจึงจะชูรส
ก๋วยเตี๋ยวหมูเลียง สั่งมาชามเดียวจะลองชิมเป็นก๋วยเตี๋ยวเมืองจันท์ ซดน้ำอร่อย
แกงหมูชะมวง ของแท้หากินได้ที่เมืองจันท์เท่านั้น รสหวานไม่มาก อมเปรี้ยวด้วยใบชะมวงนิด
ๆ รายการนี้ต้องไปชี้เอาในตู้ ราดข้าวอร่อยนัก ไปจันท์ต้องกินทุกที
ปูทะเล นึ่งมาสด ๆ แกะมาให้เสร็จ น้ำจิ้มเด็ดจริง ๆ ใช้มือจับจึงจะสะใจ
น้ำพริกผัก เขาบอกว่า "น้ำพริกกะปิ ใส่ระกำ ต้องให้ข้นพอดี ผักจิ้มติด เผ็ด
หอมกลิ่นพริกขี้หนู ปรุงสามรสเปรี้ยว เค็ม หวาน" ผักมีหลายแบบเช่นผักลวกได้แก่ ฟักทอง
ข้าวโพดอ่อน ผักบุ้ง บวบงู มีชะอม มะเขือยาวชุบไข่ทอด ผักสดก็มีแตงกวา มะเขือเปราะ
น้ำพริกอร่อยมาก กินน้ำพริกกับผักก็แทบจะอิ่มแล้ว น้ำพริกแบบจันท์แท้
ผัดเผ็ดปลาดุกทะเล ต้องกำชับด้วยอย่าให้เผ็ดมาก ไม่เช่นนั้นกินไปร้องไห้ไป
ต้มยำปลากะพง เป็นต้มยำน้ำใส ยกมาร้อน ๆ ซดถูกใจจริง ๆ เนื้อปลาขาวน่ากิน
เส้นจันท์ผัดไทย เกือบลืมสั่ง อาหารสำคัญของเมืองจันท์ มองดูก็รู้ว่าอร่อยแน่
แกงจืดไข่น้ำ พบที่ไหนเป็นต้องสั่ง เพื่อฟื้นความหลังสมัยเป็นนักเรียนนายร้อยที่ร้านตามูล
ร้านขายอาหารของสโมสร นักเรียนทำไข่น้ำเก่งนัก ขายชามละบาทเดียว
ถ้ายังไม่สะใจว่ามีอาหารน้อยไป ให้ไปชี้เอาในตู้ที่ใส่กับข้าวไว้นับดูมี ๙
อย่าง
........................................
|