แรลลี่ที่ระยอง
ผมเคยเล่าให้ท่านผู้อ่านทราบว่า ทางกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข และสมาคมภัตตาคารไทย
เขาให้เกียรติแก่ผม ด้วยการแต่งตั้งให้เป็นยอดนักชิม รวมกับนักชิมอีก ๔ ท่าน
และทางสมาคมยังได้เชิญให้ผมเป็นที่ปรึกษาของสมาคม ตามอายุของนายกสมาคมคือ
๒ ปี จึงช่วยให้ผมมีงานทำเพิ่มขึ้น สมาคม ฯ ได้ขอให้ผมร่วมในการแข่งขันแรลลี่
ผมเป็นนักเดินทาง นักขับรถทางไกล กล้าพูดได้เต็มปาก แต่ไม่เคยคิดจะไปขับรถแข่งขันกับใคร
เดินทางมากขนาดนี้ และคิดจะแข่งขันกับเขา หรือขับเร็วเกินกว่ากำหนดกฎจราจร
ป่านนี้ผมคงไม่มีโอกาสเดินทางทั่วไทย หาที่เที่ยว ที่กินมาเล่าให้ท่านทราบคงจะแข้งขาพิการ
หรือตายเรียบร้อยไปแล้ว การไปแข่งขันแรลลี่ครั้งนี้ผมจะไม่ต้องเข้าแข่งขันเองก็ได้
แต่ต้องจัดทีมเข้าร่วมการแข่งขันด้วย ๑ ทีม แต่ตัวผมต้องไป เพราะเขาประชาสัมพันธ์
ให้นักแข่งทราบว่า จะได้กินอาหารร่วมกับยอดนักชิม ซึ่งได้สรรหาร้านอาหารอร่อยให้ชิม
และถือเป็นจุด อาร์ ซี ที่นักแข่งจะต้องหาร้านอาหารที่จะกินกันในมื้อกลางวันให้พบ
หาไม่พบเสียคะแนน หิวข้าว หรือไม่งั้นคงต้องไปหาซื้อกินเอง เมื่อไม่พบร้านอาหารที่กำหนด
ก็ไม่ได้ลายเซ็นรับรองของยอดนักชิม และของกรรมการ ซึ่งผมได้เลือกร้านอาหารที่เขากำหนดให้ผมที่พัทยา
ผมเลือกร้านอยู่พัทยาเข้าทางซอย ๑๘ ซึ่งเป็นร้านที่ได้รับป้ายคลีน ฟู๊ด
กู๊ด เทสท์ ของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขด้วย และการแข่งขันคราวนี้ทางสมาคม
ฯ ร่วมกับทางกระทรวงพาณิชย์ด้วย เพราะจะส่งเสริมการกินกุ้งสด เพื่อช่วยเกษตรกรเลี้ยงกุ้ง
ที่กำลังส่งกุ้งไปขายยุโรปไม่ได้มากเหมือนเมื่อก่อน สมาคม ฯ จะมีเจ้าหน้าที่นำกุ้งสดไปล่วงหน้า
ไปส่งให้แก่ร้านอาหารที่จะชิมกันในมื้อกลางวัน และมื้อเย็นที่จะกินรวมกันทุกคน
ทางร้านจะต้องทำอาหารจากุ้งที่นำไปให้ ๒ อย่าง นอกนั้นก็จะเป็นอาหารที่ผมเสนอแนะเอาไว้ให้
ดังนั้นเมื่อร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ จุดปล่อยรถก็ใช้สถานที่ของกระทรวงพาณิชย์
เนื่องจากเป็นวันเสาร์สถานที่ราชการจึงหยุด จอดรถได้สบาย รถที่เข้าแข่งขันมีประมาณ
๘๐ คัน ผมไม่ได้ขับเอง เพราะเหมือนเป็นกรรมการด้วย จะไม่สะดวกจึงต้องขอให้ลูกชายขับแทนจะแพ้
ชนะ ไม่สำคัญ ความสำคัญของตัวผมอยู่ที่ต้องหาร้านอาหารอร่อย ๆ ให้เขาและร่วมนั่งกินอาหารมื้อกลางวันกับเขา
ส่วนมื้อเย็นนั้นเหมือนมื้อบังคับ เพราะทุกคนจะไปพักที่เดียวกันคือ ที่โรงแรม
ที่จังหวัดระยอง ซึ่งโรงแรมนี้ผมเคยพักหลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้ไปพักนานแล้ว
ชื่อเต็มของการแข่งขันแรลลี่ในคราวนี้คือ "แรลลี่ กินกุ้งอร่อยกับยอดนักชิมไทย"
นอกจากผมแล้วยังมียอดนักชิมอีก ๒ ท่าน นอกจากจะรณรงค์ช่วยเกษตรกร ที่เลี้ยงกุ้งขาวแล้ว
ยังรณรงค์ให้ช่วยกันใช้น้ำมันก๊าซโซฮอล์อีกด้วย รถผมตกคะแนนข้อนี้ เพราะก่อนวันไปแข่งขันวันหนึ่ง
ผมจัดการเติมก๊าซโซฮอล์จนเต็มถังแล้ว และระหว่างทางก็หาปั๊มเติม เพื่อเอาใบเสร็จแสดงไม่ได้เลย
ก็จะไปหาได้อย่างไรรถผมวิ่งบนทางด่วนเสียตั้งหลายสิบกิโลเมตร ก่อนปล่อยรถโดยข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของกระทรวงพาณิชย์
ซึ่งดูเหมือนจะมาแทนรัฐมนตรี เพราะแผนที่แจ้งไว้รัฐมนตรีช่วยว่าการจะมาเอง
ส่วนที่ตั้งกระทรวงพาณิชย์ในปัจจุบันก็อยู่ถนนสายสนามบินน้ำ เนื่อที่กว้างขวางริมแม่น้ำเจ้าพระยา
วิวสวยทีเดียว
ก่อนออกเดินทางก็มีสาวพริตตี้ แต่งตัวตามสไตล์สาวพริตตี้ แถมด้วยใส่หัว หรือจะเรียกว่าหมวกก็ได้
ทำเป็นรูปหัวกุ้ง มาถือป้ายให้ครึกครื้น แต่พวกเธอสี่สาวไม่ได้ไปด้วยหรอก ถึงเวลารถก็ออกไปตามลำดับหมายเลข
ผมค่อนข้างจะเจนเส้นทางเพราะเดินทางมาก และระหว่างทางจนถึงร้านอาหารที่พัทยาไม่จุด
อาร์ ซี ให้ลงบันทึกถือการหาร้านอาหารเป็นจุดหมาย และมีแบบสอบถามให้กรอก
ผมออกจากกระทรวงพาณิชย์แล้วผมย้อนไปเข้าถนนรามอินทรา ไปขึ้นทางด่วนรามอินทรา
- เอกมัย วิ่งกันรวดเดียว ๒ ด่วนคือ ต่อเข้าทางด่วนสายไปบางปะกงเลย
ลงทางด่วนแล้วก็มุ่งหน้าไปทางชลบุรี เลี้ยวซ้ายเข้าบายพาสพอสุดทางก็เลี้ยวซ้ายอีกที
วิ่งไปจนบรรจบกับถนนสายพัทยา - ระยอง ก็เลี้ยวขวาไปพัทยา ปรากฎว่ารถผมไปถึงก่อนรถคันอื่น
ๆ จนชักไม่สบายใจว่าตูทำแผนที่ให้เขาผิดหรืออย่างไร รอกันตั้งนานสุดท้ายก็มีหายไปหลายคันมาไม่ถูก
เพราะเห็นโต๊ะอาหารว่างอยู่ ๒ โต๊ะ อาหารอร่อย มีมากมายกินกันอิ่มหนำสำราญ
ต่อจากนั้นก็ออกเดินทางต่อเพื่อไปยังระยอง และต่อไปยังโรงแรม ไปถึงโรงแรมแล้วยังมีเวลาที่จะลงเล่นน้ำทะเล
หรือจะลงว่ายน้ำในสระว่ายน้ำก็มีถึง ๒ สระ ทั่วบริเวณยังร่มรื่น สดสวยเหมือนเดิม
มีน้ำตกจำลอง ชายหาดสวยมาก
เส้นทางไปโรงแรมนั้น ไปจากระยองจนเลยทางแยกเข้าบ้านเพ ซึ่งเป็นแหล่งของกิน
ของฝากที่สำคัญ เลยไปอีกก่อนถึงทางแยกเข้าตรงโรงแรม ถนนลอดไปใต้อุโมงค์ต้นสน
เลี้ยวขวาวิ่งตรงเข้าไปยังโรงแรมได้เลย
มื้อเย็น จัดเลี้ยงในโรงแรม สมาชิกของสมาคมจากภาคต่าง ๆ มาร่วมกันทุกภาค
และบรรดานักแข่งทั้งหลาย ผลการตัดสินรถผมไม่ต้องฟังผลก็รู้ว่า ไม่เข้าที่ระดับรางวัลกับเขาแน่
หวังคือรางวัลรองบ๊วย มันก็ไม่รองบ๊วย ไม่ทราบว่ามาลำดับที่เท่าไร ตกค่ำเขามีการละเล่นต่าง
ๆ ซึ่งคงจะไม่สนุกสำหรับวัยอย่างผมเลย สมัครนั่งดู ไม่ทราบว่าไปสรรหาวิธีการเล่นแปลก
ๆ เหล่านี้มาจากไหน เฉพาะตัวผมกับนักชิมอีก ๒ ท่าน และนายกสมาคม ทางห้องอาหารของโรงแรมเชิญไปชิมอาหารฝรั่ง
ผมเลยไม่ได้ชิมอาหารที่จัดเลี้ยง ซึ่งมีอาหารกุ้งให้กินกันอย่างเหลือเฟือเลยทีเดียว
ถามเลขา ฯ แล้วบอกว่าอร่อยทุกอย่าง
อาหารฝรั่ง ที่เขาเชิญไปชิม ไปชิมจริง ๆ ไม่ได้กินกันจนอิ่ม มี ๔ จานคือ
กุ้งชุบเกร็ดขนมปังทอด ราดซอสครีมมะนาวในสวนผลไม้ จานนี้ยกให้เป็นลำดับหนึ่งเลยทีเดียว
จัดลงจานก็สวยเอาผลไม้ ซึ่งเมืองระยองได้ชื่อว่าเป็นเมืองผลไม้ จัดผลไม้ไว้ริมจานด้านหนึ่ง
กุ้งทอดเอาไว้อีกด้านหนึ่ง เขาแกะกุ้งตัวโตมาก ไม่ใช่กุ้งขาวที่เอามาทำอาหาร
กุ้งแกะเปลือกแล้วคลุกแป้ง ไข่ คลุกเกร็ดขนมปัง นำไปทอดให้เหลืองกรอบน่ากิน
จัดการนำผลไม้หลายชนิด ต่างสีกันลงผัดกับเหล้าผลไม้ (FLAMBE)
ผัดซอสด้วยไฟแรงใส่จาน ซึ่งในจานรองเอาไว้ด้วยผักกาดแก้ว แล้วจึงวางกุ้งราดซอส
จานนี้อร่อยอย่าบอกใคร กุ้งเนื้อแน่น เคี้ยวหนึบ กินพร้อมผลไม้เข้ากันดีนัก
ส่วนอีก ๒ จาน ผมชิมน้อยหน่อย เพราะไปติดใจกุ้งราดซอส กับปลาแซมมอนผัดฉ่า
จานนี้ก็อร่อยยกนิ้วให้ได้ อีก ๒ จานไม่ได้ชิม จำชื่อก็ไม่ได้ ไม่แน่ใจว่าถ่ายรูปมาด้วยหรือเปล่า
เลขา ฯ ก็ไม่ได้เข้าไปชิมด้วย
พอเกือบอิ่มกับกลับเข้าไปในงานใหม่ ผมไม่ได้ชิมอาหารที่จัดเลี้ยงอีก
พยายามรักษาสุขภาพ ด้วยการเชื่อแพทย์ที่ดูแลหัวใจผมอยู่ คุณหมอบอกว่า
พี่ระวังเรื่องน้ำหนักตัวอย่างเดียว น้ำหนักลดเข้าขั้นมาตรฐานชายเมื่อใด โรคต่าง
ๆ จะไม่มารบกวน และต้องออกกำลังด้วยไม่จำเป็นต้องออกทุกวัน ด้วยวัยของผมสัปดาห์
๓ - ๔ ครั้งก็พอแล้ว ทุกครั้งให้เหงื่อออกโชกก็แล้วกัน น้ำหนักมาตรฐานชาย
คือ เศษของส่วนสูง ผมสูง ๑๘๐ ซม. น้ำหนักมาตรฐานคือไม่เกิน ๘๐ กก.
ก็คอยระวังน้ำหนักไว้ให้อยู่ประมาณ ๘๐ กก. เป็นใช้ได้ กินอิ่มมากไม่ได้เพราะคนสูงอายุ
ระบบการเผาผลาญของร่างกายไม่มากเหมือนหนุ่ม สาว คืนนี้เขาสนุกกันถึงกี่ทุ่มไม่ทราบ
แต่ผมขอตัวก่อนเมื่อเวลาประมาณสามทุ่มเศษ ๆ ตามเวลาที่เขากำหนดไว้ในโปรแกรม
หลับสบาย ไร้กังวล อากาศดีเยี่ยมแทบไม่ต้องเปิดแอร์
มื้อเช้าจัดแบบบุฟเฟต์ คงมีเหมือนโรงแรมชั้นดีทั่ว ๆ ไป คือ ขนมปังหลายชนิด
ไข่ดาว คอนเฟรค ออมเลท โจ๊ก ข้าวต้ม แฮม เบค่อน ใส้กรอก น้ำผลไม้ ชา
กาแฟ อิ่มหนำสำราญแล้วก็เดินชมชายหาด บางกลุ่มก็เช่า "บานาน่าโบ๊ท"
ที่มารอให้เช่าที่ริมหาด หน้าโรงแรม หรือบางพวกก็เช่าเรือไปเกาะเสม็ด
ที่มองเห็นจากชายฝั่ง ไปเกาะเต่า ค่าเช่าคนละ ๕๐๐ บาท แต่ต้องหาพรรคพวกให้ได้กลุ่มละ
๙ - ๑๒ คน เรือเขาจึงยอมไปเกาะ
ส่วนคณะผม ๓ คน ไม่ได้ลงเรือ ไม่ได้ไปอนุสาวรีย์สุนทรภู่ที่แกลง
ซึ่งจะต้องเลี้ยวขวาเมื่อออกจากโรงแรม และที่แกลงยังมีวัดที่น่าชมอีกวัดหนึ่งคือ
วัดสารนาถ มีเวลาควรไป
ผมออกจากโรงแรมก็เลี้ยวซ้ายแล้ววิ่งเลาะขายหาด มาทางบ้านเพ
บ้านเพวันนี้กับเมื่อสัก ๒๕ ปีที่แล้ว มองหาภาพเก่า ๆ ไม่เจอเลย เจริญเหลือเกิน
มีตลาดใหญ่ขายของกิน ของฝากขนาดมหึมา อยู่ริมหาด มีท่าเรือนำเที่ยว
เรือข้ามไปเกาะเสม็ด ซึ่งเป็นสถานที่พักตากอากาศอีกแห่งหนึ่ง ผมเคยไปนอนพักหลายครั้งสนุกดี
วันนี่แวะบ้านเพ ได้แต่ซื้ออาหารแห้ง อาหารทะเลทั้งหลาน ส่วนผลไม้กะจะไปซื้อจากตลาด
ข้างทางเลยระยองไปแล้ว จะมีแผงขายผลไม้ยาวเหยียดหลายสิบแผง
ก่อนพาไปชิมอาหาร ขอทบทวนที่ท่องเที่ยวฉบับย่อของระยอง ซึ่งไปคราวนี้ไม่ได้แวะเลย
คือ
เที่ยว กิน ตามสวนผลไม้ มีหลายสวน เช่น
สวนวิชา ป้าเยี่ยม ชมสวน ชิมผลไม้ ตามฤดูกาล
ชุมชนเกษตร บ้านซากมะกรูด มีบุฟเฟต์ผลไม้ ขนุน และมะพร้าวอ่อน
สวนสภัทราแลนด์ ชมสวน ชิมผลไม้ สวนนี้น่าไปเที่ยวชม
สวนปาหนัน ชิมผลไม้และมีบ้านพักบริการ ยังมีอีกหลายสวนที่มีที่พัก
จังหวัดระยองได้ชื่อว่า "ผลไม้รสล้ำ อุตสาหกรรมก้าวหน้า
น้ำปลารสเด็ด เกาะเสม็ดสวยหรู สุนทรภู่กวีเอก"
ไปอนุสาวรีย์สุนทรภู่ หากออกจากโรงแรม ให้เลี้ยวขวาไปทาง อ.แกลงก่อน ออกสู่ถนนสุขุมวิท
จะอยู่ทางขวามือ ท่านคือกวีเอกของกรุงรัตนโกสินทร์ บิดาของท่านเป็นชาวอำเภอแกลง
ที่อนุสาวรีย์แห่งนี้ นอกจากรูปปั้นของกวีเอกแล้ว ยังมีรูปปั้นของพระอภัยมณี
นางเงือกและผีเสื้อสมุทรด้วย
สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำระยอง
ริมทะเลอ่าวบ้านเพ อยู่ในบริเวณศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเลอ่าวฝั่งตะวันออก
จัดแสดงสัตว์ทะเลเศรษฐกิจ พันธ์สัตว์น้ำที่สวยงาม หายาก สัตว์น้ำมีพิษ มีอุโมงปลายาว
๑๐ เมตร (ยาวกว่าที่บึงฉวาก) มีตู้ปลาหลอดสูง ๖ เมตร จัดแสดงปลาผิวน้ำเช่น
ปลาทู หาดูยากไม่เคยเจอ
หาดแม่รำพึง
อยู่ห่างจากตัวเมืองระยองประมาณ ๑๕ กม.เลยต่อไปคือ บ้านเพ
ที่ผมบอกว่าเดี๋ยวนี้กลายเป็นแหล่งของกิน ของฝากสารพัดเลยทีเดียว เป็นท่าเรือที่จะไปยังเกาะเสม็ด
และหากเดินทางต่อไป จะผ่านวังแก้วสถานที่ตากอากาศชั้นดี
น่าจะเป็นแห่งแรกจะผ่านถนนที่เมืองลอดใต้อุโมงค์ต้นสนสวยงามมาก แต่ชายหาดตรงนี้เขากั้นเขื่อนเตี้ย
ๆ เอาไว้ ทำให้สวยน้อยไปหน่อย อุทยานแห่งชาติแหลมหญ้า
และหมู่เกาะเสม็ด
มีเนื้อที่มากกว่าแปดหมื่นไร่ ครอบคลุมพื้นที่ทั้งทะเล และบนบก ตลอดจนเกาะต่าง
ๆ ได้แก่หาดแม่รำพึง เขาแหลมหญ้า
หมู่เกาะเสม็ด ซึ่งประกอบไปด้วยเกาะเสม็ด เกาะจันทร์ เกาะสันฉลาม เกาะหินยาว
เกาะค้างคาว เกาะกุฎี เกาะกรวย มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ๓ เส้นทาง ทราบรายละเอียดได้จาก
๐๓๘ ๖๕๓ ๐๓๔ หรือที่ ๐๑ ๕๖๒ ๐๗๖๐ กรมอุทยาน ฯ
การไปเที่ยวเกาะมีหลายเกาะเช่นไปเกาะกุฎิ
หรือเกาะกูด ซึ่งเป็นเกาะหนึ่งในวรรณกรรมของสุนทรภู่เล่นน้ำ
กางเต้นท์นอนได้ มีหน่วยพิทักษ์อุทยานตั้งอยู่บนเกาะนี้ เช่าเรือไปได้จากท่าเรือบ้านเพ
เกาะกรวย เกาะขาม
มีแนวปะการังน้ำตื้นและน้ำลึกอยู่โดยรอบ
หมู่เกาะมัน เกาะมันกลาง และเกาะมันนอก
เช่าเรือไปได้จากแหลมแม่พิมพ์
แหลมแม่พิมพ์
อยู่ห่างจากตัวเมืองระยอง ๔๘ กม. แยกเข้าที่ กม.๒๖๘ จะผ่านอนุสาวรีย์สุนทรภู่ด้วยเลยสุนทรภู่ไปอีก
๕ กม. หาดแม่พิมพ์สวนนัก มีอาหาร ที่พักพร้อม
สวนพกฤษชาติโสภา
อยู่ที่แหลมแม่พิมพ์เลียบหาดจากบ้านเพ วิ้งเข้ามาในอุโมงค์ ต้นสนที่ผมบอกไว้เมื่อตอนมาจากโรงแรมจะมาบ้านเพ
สวนนี้มีเรือนไทยโบราณอายุกว่าร้อยปีอยู่ ๓ หลัง จัดแสดงโบราณวัตถุเช่น เครื่องปั้นดินเผา
ยุคบ้านเชียง
สวนวังแก้ว ที่ผมเคยมาพักหลายครั้ง ตั้งแต่ ๒๐ กว่าปีที่แล้ว ไม่ได้พักก็เข้าไปชมได้
ดูเหมือนจะเก็บค่าเข้าชม ๑๐ บาท เป็นหาดส่วนตัวคนไม่พลุกพล่าน บริเวณกว้างขวางมีอ่าวเล็ก
ๆ เช่นอ่าวไทรใหญ่ อ่างเทวาสถิต อ่างพลับพลึง มีที่พักดีเยี่ยม มีเครื่องครัวให้ด้วย
ผมเคยพักที่นี่แล้วไปจ่ายอาหารสดจากบ้านเพมาทำกินกันเอง สนุกอย่าบอกใครเชียว
ที่ระยองมีน้ำตกหลายแห่งเช่น น้ำตกเขาชะเมา
หรือน้ำตกคลองน้ำใส ในอุทยานแห่งชาติเขาชะเมา
มีถึง ๘ ชั้น น้ำตกคลองปลาก้าง
ห่างจากที่ทำการอุทยาน ประมาณ ๓ กม. มีจุดกางเต้นท์บริการ ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่อุทยาน
ฯ ๐๓๘ ๘๙๔ ๓๗๘
วัดสารนาถธรรมาราม
ชมอุโบสถยอดปราสาทและเจดีย์จำลองอยู่เลยอนุสาวรีย์สุนทรภู่ไป ภายในอุโบสถบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
มีเจดีย์จำลองตรงมุมกำแพงแก้ว ปูชนียสถานที่สำคัญเช่น พระมหาสถูปพุทธคยา พระปฐมเจดีย์
ฯลฯ พุทธคยาจำลองนั้นงามมาก และเหมือนของจริง เพราะได้สถานทูตอินเดียให้การช่วยเหลือ
ควรแก่การไปสักการะ
กลับเข้ามาในตัวเมืองระยอง
พระเจดีย์กลางน้ำ
ไม่ได้มีแต่ที่สมุทรปราการ ต้องวิ่งไปตามถนนเลียบชายหาดไปทางแหลมเจริญ วิ่งตรงไปจนสุดทางที่ริมแม่น้ำระยอง
พระยาศรีสุนทรโภคชัยโชคชิตสงคราม (เกตุ ยมจินดา) อดีตเจ้าเมืองระยองได้สร้างไว้
สมัยก่อนคมนาคมทางเรือเป็นหลัก ชาวเรือเห็นพระเจดีย์กลางน้ำก็รู้ว่าใกล้จะถึงตัวเมืองระยองแล้ว
เหมือนเรือจะเข้ากรุงเทพ ฯ ผ่านปากน้ำเห็นพระสมุทรเจดีย์ก็เตรียมตัวเทียบท่าได้
ไประยองควรแก่การไปเคารพสักการะทาสีขาวเด่นเป็นสง่าริมปากน้ำระยอง
สวนศรีเมือง
ไม่ไกลจากศาลากลางจังหวัด ชาวบ้านเรียกเกาะกลาง มีแม่น้ำสายเล็ก ๆ ล้อมรอบ
มีหอพระพุทธอัคคีรส เป็นอาคารทรงไทย แดนนี้เคยเป็นที่ประหารนักโทษมาก่อน
ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
ศาลแห่งนี้อยู่ในวัดลุ่มมหาชัยชุมพล ถนนตากสินมหาราช พอเลี้ยวขวาเข้าถนนก็เลี้ยวซ้ายเข้าวัดได้เลย
ศาลหลักเมืองระยอง
สร้างมาตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๓๘ มีลักษณะเป็นศาลเจ้าจีน แต่เสาหลักเมืองได้หักพังลงมา
สร้างใหม่ เมื่อ พ.ศ.๒๕๓๔
วัดป่าประดู่
น่าไปอย่างยิ่ง เส้นทางหาโรงพยาบาลให้พบ เลยโรงพยาบาลไปแล้วเลี้ยวซ้ายวัดนี้อายุกว่า
๔๐๐ ปี คือ สร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมเป็นวัดร้าง หลวงพ่อเทียนมาบูรณะ
เมื่อ พ.ศ.๒๓๗๒ และได้รับการยกฐานะเป็นพระอารามหลวง เมื่อ พ.ศ.๒๕๒๓ พระอุโบสถหลังใหม่สร้างงดงาม
แต่ต้องขอยกย่องชมเชยที่ยังรักษาพระอุโบสถเดิมเอาไว้ หลังนี้สร้างมาตั้งแต่
พ.ศ.๒๔๔๙ ได้รับอิทธิพลจีน ที่หน้าบันมีรูปปั้นเป็นพระพุทธรูปผุดขึ้นมา เหนือดอกบัวกลางสระ
เล่ากันว่า ตอนจะสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ เจ้าอาวาสจะรื้อหลังเก่าทิ้ง "พอคิดจะทำท่านก็อาพาธทันที"
แต่พอมีบริษัทรับเหมามาอาสา จะย้ายอุโบสถหลังเดิมออกไปห่างอีก ๕๐ เมตร เจ้าอาวาสก็ไม่รื้อ
และอนุญาติให้ทำได้ พออนุญาตท่านก็หายป่วยทันที เวลานี้หลังเก่าอยู่หน้าพระวิหารพระปางป่าลิไลยก์
พระพุทธไสยาสน์วัดป่าประดู่ ยาว ๑๑.๙๕ เมตร ประทับนอนตะแคงซ้าย เหมือนที่กาฬสินธ์
ส่วนพระป่าลิไลยก์ เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่คู่มากับวัด เคยเป็นพระประธานในพระอุโบสถมาก่อน
วัดโขดทิมทาราม
อยู่ตรงข้ามวัดป่าประดู่ สร้างมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช มีภาพจิตรกรรมฝาผนัง
ที่เขียนไว้ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๓ เรื่องทศชาติชาดก
ที่พัก นักท่องเที่ยวไม่นิยมพักในตัวเมืองระยอง ผมเคยลองพักเพราะเห็นมีโรงแรมใหญ่
ๆ หลายแห่ง แต่ไม่ได้ตั้งอยู่ริมทะเลเท่านั้น ผมพักที่โรงแรม เป็นโรงแรมใหญ่
มีสระว่ายน้ำ ราคาย่อมเยา สะดวกและอาหารดีด้วย พักในเมือง สำหรับผู้สูงอายุแบบผมก็สบายดีและไม่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยว
ได้กินอาหารทะเล อร่อยราคาถูก
ชายหาดแหลมเจริญ
ติดต่อกับหาดแสงจันทร์
เป็นชายหาดที่ใกล้ตัวเมืองหรือจะเรียกว่าหาดในเมืองก็ได้ ด้านหนึ่งคือทะเล
อีกด้านหนึ่งของแหลมคือปากแม่น้ำระยองที่ฝั่งเมืองจะอยู่ริมแม่น้ำนี้ จะเห็นเรือประมงจอดเป็นแถวในแม่น้ำ
เห็นหมู่บ้านชาวประมง มีสวนสาธารณะอยู่ที่ปลายแหลมเจริญ อยู่ตรงปากอ่าวแม่น้ำระยองพอดี
เส้นทางไปร้านอาหาร เข้าถนนตากสินมหาราช ตรงเรื่อยไปจนสุดทางมีสามแยกให้เลี้ยวขวา
วิ่งเลียบแม่น้ำระยองถึงสะพานเฉลิมชัย ก็เลี้ยวซ้ายข้ามไปยังชายหาด หากตรงไป
ไปพระเจดีย์กลางน้ำ และก่อนถึงหากข้ามอีกสะพานหนึ่ง จะไปลงที่หาดแสงจันทร์
อาหารยอดฮิตของร้านนี้ที่สั่งมาชิมกันคือ
ปลากะพงราดน้ำปลา น่าจะเป็นต้นตำรับด้วยซ้ำไป ผมพบร้านนี้เป็นร้านแรก ตัวที่สั่งมาหนัก
๘ ขีด อย่าสั่งตัวเล็กนอกจากจะแย่งกันแล้ว ความอร่อยของเนื้อปลาตัวโตจะอร่อยมาก
เนื้อแน่น เคี้ยวสนุก ตอนที่ผมชิมราคาขีดละ ๓๕ บาท วันนี้น้ำมันแพงขึ้นไปอีกแยะ
ไม่ทราบว่าราคาจะขึ้นไปเท่าใด เขาเอาปลาทั้งตัวผ่าซีกเสียก่อน แล้วจึงเอาไปทอดจนกรอบ
เมื่อทอดแล้วเนื้อปลาจะฟูขึ้นมา แล้วราดด้วยน้ำปลาอย่างดี จนรสน้ำปลาดีเข้าเนื้อปลา
เวลาชิมจะไม่มีกลิ่นน้ำปลา มีแต่กลิ่นอร่อย ไม่ต้องไปจิ้มอะไรให้เสียรส
ไข่เจียว อาหารประจำชาติก็ว่าได้ แต่เราสั่งไข่เจียวหอยนางรม คอไข่เจียวทั้งหลายโดดใส่
แกงส้มไข่ปลาเรียวเชียว ไข่เม็ดโตเคี้ยวมันนัก ตักข้าว ตักไข่เจียวแล้วซดแกงไข่ปลา
ผัดผักโต้วเหมียว ทางร้านแนะนำบอกว่าเป็นผักสุขภาพ ป้องกันมะเร็งได้ แต่ไม่ได้กินทุกวัน
ไม่ทราบว่าจะป้องกันได้ไหม กินเอาอร่อยก็แล้วกัน เขาบอกว่าข้อดีอีกประการคือ
ทำให้ลำไส้แข็งแรง ระบบขับถ่ายดีขึ้น เลยอยากหากินทุกวัน ไม่ทราบว่าที่แผงจตุจักรจะมีขายหรือเปล่า
อร่อย แปลกดี
ไปหลายคน สั่งกุ้งใหญ่เผา กก.ละ ๖๐๐ - ๙๐๐ บาท อีกอร่อยคือ ปูนิ่มทรงเครื่องจานนี้
๒๕๐ บาท ของหวานไม่มี มีแต่ผลไม้ มาระยองอย่าไปห่วงขนมหวาน กินผลไม้กันให้อิ่มดีกว่า
.......................................................
|