โครงการพัฒนาส่วนพระองค์
(ชุมพร)
โครงการพระราชดำรินั้น มีมากกว่า ๓,๐๐๐ โครงการ และเนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เจริญพระชนม์พรรษาครบ ๘๐ พรรษา ในปี ๒๕๕๐ นี้ การท่องเที่ยวและหน่วยงานอื่นอีก
๓ หน่วยงาน ได้ร่วมกันทำหนังสือชื่อว่า " เปิดทองหลังพระ" ท่องเที่ยวสืบสานในโครงการพระราชดำริ
โดยคัดเลือกโครงการพระราชดำริ ๑๙ โครงการ จาก ๓,๐๐๐ กว่า โครงการ และ ๑ ใน
๑๙ โครงการนั้นคือ โครงการพัฒนาส่วนพระองค์ อ.ปะทิว จ.ชุมพร แนวพระราชดำริในการพัฒนาพื้นที่นี้คือ
อนุรักษ์ สันทราย (มีแห่งเดียว ที่มีสันทรายชายหาดสวย) สภาพป่าไว้เพื่อศึกษา
พัฒนาพื้นที่การเกษตร ปรับปรุงดินให้เหมาะสมกับการปลูกแตงโม พันธุ์บางเบิด
ซึ่งบางเบิดนั้นอยู่ไม่ไกลกัน
เพื่อให้เป็นแหล่งศึกษา วิจัย ส่งเสริมอาชีพแก่เกษตรกร
พัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของชุมพร เพราะเหมาะสมทุกด้าน
"ดอกไม้หอม ป่าสวย น้ำหยดใส หาดทรายขาว อัศจรรย์สันทรายงาม คือ โครงการส่วนพระองค์
อ.ปะทิว จ.ชุมพร"
ที่ดินในโครงการแห่งนี้มีจำนวน ๔๔๘ ไร่เศษ ราษฎรน้อมเกล้าถวาย เมื่อ ๑๙ พฤษภาคม
พ.ศ.๒๕๑๔ เป็นที่ดินทรัพย์สินส่วนพระองค์ และโครงการนี้ได้พัฒนากันอย่างจริงจัง
เมื่อ พ.ศ.๒๕๔๒ สืบเนื่องจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จเยี่ยมราษฎรชาวชุมพร
เมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๑ จึงมีพระกระแสรับสั่งให้โครงการพัฒนาส่วนพระองค์ เป็นผู้รับผิดชอบดูแลพื้นที่แปลงนี้
ซึ่งได้ร่วมกับหน่วยงานราชการต่าง ๆ เข้าพัฒนาพื้นที่ และมีเจ้าหน้าที่ของทางการเพียงคนเดียวคือ
คุณชัยรัตน์ รัตนดำรงภิญโญ ข้าราชการกรมอุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า ส่วนพนักงานอื่น
ๆ เป็นลูกจ้าง ไม่ใช่ข้าราชการ
ก่อนจะเข้าไปชมโครงการส่วนพระองค์แห่งนี้ ออกเดินทางกันเสียก่อน ไปกับผมไม่ต้องไปตระเวนหาเป้าหมาย
ไปตามลายแทงของผมขับรถชนเป้าเลย ผมออกเดินทางไปในวันราชการ ออกตั้งแต่ยังไม่เจ็ดโมงเช้า
กะจะไปหาอาหารเช้ากินที่เขาย้อย หรือเพชรบุรี วิ่งขึ้นทางด่วนไปข้ามสะพานพระราม
๙ ลงยังถนนล้านปี (พระราม ๒) เพราะสร้างกันไม่เสร็จสักที นานร่วมสามสิบปีคงจะได้
ถึงเขาย้อยร้านข้าวแกงที่เคยกินประจำอยู่ทางขวามือ แต่ตอนนี้ทางฝั่งซ้ายมือ
มีร้านข้าวแกงเกิดใหม่ รถจอดเต็ม
กลับออกมามุ่งไปตามถนนเพชรเกษม (สาย ๔) พอเกือบถึงท่ายาง ย่านนี้ถนนกำลังขยาย
มองเห็นป้ายเป็นระยะ ๆ ร้านข้าวแกงอยู่ตรง กม.๑๗๘.๒๐๐ ร้านเล็ก ๆ เลี้ยวซ้ายเข้าไปจอดหน้าร้าน
สั่งอาหารมา ๓ อย่างคือ ผัดเผ็ดป่าดุกทะเล ไข่และหมูพะโล้ และผัดอีกอย่าง
ข้าวสวยร้อน ๆ ๒ จาน น้ำ ๑ ขวด น้ำแข็งอีก ๒ แก้ว ที่บรรยายละเอียดเพราะอาหารรสดี
เกณฑ์อร่อย แต่ตอนจ่ายเงินต้องให้เขาคิดอีกที "๕๕ บาท"
จากร้านข้าวแกง ตลุยรวดเดียวไปพักที่ทับสะแก พึ่งกินข้าวเช้าเลยยังไม่หิวข้าวกลางวัน
แวะพักที่ร้าน มีอาหารน่าชิมหลายอย่าง อาฆาตไว้ก่อนจะมาชิมในวันกลับ แต่วันนี้สั่งมาคือ
กาแฟ ขนมเค้ก อร่อยมาก กระทงทอง และข้าวตังหน้าตั้ง ร้านนี้ต้นไม้มาก ร่มรื่น
ร้านอยู่ฝั่งซ้ายมือ กม.๓๖๒ กม. ๔๒๕.๘๐๐ ถนนแยกซ้ายเข้าสู่โครงการส่วนพระองค์
ฯ ปากทางมีป้ายบอกไปวัดห้วยสัก เมื่อเลี้ยวเข้ามาแล้วสองข้างทางจะร่มรื่นไปด้วยสวนปาล์มน้ำมัน
ข้ามทางรถไฟ แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนน รพช. มีป้ายบอกว่าไป อ.ปะทิว ประตูทางเข้ามียามเป็นสาวน้อย
จะขอบัตรประจำตัวเอาไว้ วิ่งต่อไปอีกประมาณ ๑ กม. จะถึงชายทะเล มีถนนเลียบชายทะเล
ถนนอยู่บนสันทราย แต่เวลาขับรถไม่รู้สึกว่า กำลังวิ่งอยู่บนสันทรายที่สูงจากพื้นประมาณ
๓๐ เมตร เป็นกำแพงเมืองยักษ์ ยาวตลอดมาจากบางเบิด ยาวจนพ้นเขตโครงการ ฯ รวมแล้วสันทรายยาวประมาณ
๑๐ กม. ครอบคลุมพื้นที่กว่า ๒,๐๐๐ ไร่ สาเหตุที่เกิดเฉพาะที่ "หาดบางเบิด"
อ.ปะทิว เพราะมีลมที่พัดแรง สม่ำเสมอ ต่อเนื่องยาวนาน หน้าทะเลเปิดโล่ง หาดทรายในเวลาน้ำลงกว้างมาก
"ทรายเป็นสีทอง" และน้ำลงนานพอที่จะทำให้เม็ดทรายแห้งทัน แล้วปลิวตามลมขึ้นมาบนฝั่งอย่างต่อเนื่อง
เวลาผ่านไปหลายสิบ หลายร้อยปี การทับถมของเม็ดทรายทีละเล็ก ทีละน้อยจึงกลายเป็นเนินมหึมา
หลังเนินทรายปกคลุมด้วยพืชพันธุ์มากกว่า ๑๖ๆ ชนิด ซึ่งจะหาชมได้ยากจากถิ่นอื่นของประเทศ
พันธุ์ไม้จากป่าพรุ ป่าชายหาด ป่าดิบชื้น ป่าดิบแล้ง มางอกงามอยู่ในหุบทราย
พันธุ์ไม้ดอกจะทยอยออกดอกกันตลอดปี ยิ่งฤดูหนาวยิ่งสวย และมีกลิ่นหอมด้วย
เช่น ดอกพันจำ (สีขาว) ดอกกระดูกไก่ (สีขาว) ดอกดองดึง ดอกปลาไหลเผือก
ดอกช้างน้าว (สีเหลือง) ดอกคัดเค้าหนู ดอกโมกเครือ ดอกขี้หนอน ดอกมังคุดป่า
ดอกแมกโนเลีย ดอกเคี่ยม ฯ หมุนเวียนกันออกทั้งปี ไม้ใหญ่ที่แปลกและหายากคือ
ต้นเสม็ดชุน อายุเกินร้อยปี แผ่กิ่งก้านเป็นพุ่มใหญ่ ร่มรื่น
ชายหาดเวลาน้ำลงจะสวยมาก เพราะกว้าง และทรายสีทองอ่อน ๆ ลมพัดเย็นตลอดเวลา
มีทางเดินชมธรรมชาติเดินสะดวก เดินสบาย นกแยะ มีมากกว่า ๕๐ ชนิด นักดูนก พกกล้องส่องนกไปด้วย
จะไม่ผิดหวัง
ระหว่างกำลังชมหาด คุณชัยรัตน์ หัวหน้าโครงการได้กรุณาเดินมาแนะนำตัว และเชิญไปที่สำนักงาน
ผมเห็นขวดขนาดสัก ๒๐๐ ซี ซี บรรจุน้ำมันมะพร้าวเอาไว้ ถามไถ่ดูได้ความว่าเป็นน้ำมันมะพร้าวที่สกัดออกมา
เมื่อบีบจนได้น้ำมะพร้าวแล้ว ปล่อยไว้ ๑ คืน น้ำมันจะลอยขึ้นมา ตักน้ำมันนี้ไปกรองอีกหลายชั้น
แล้วบรรจุขวดจำหน่ายขวดละ ๘๐ บาท แต่หากซื้อทั้งโหลขายเพียง ๕๔๐ บาท เลขา
ฯ ประจำตัวผมเขาใช้น้ำมันมะพร้าวหมักผม และบำรุงผิวมานานแล้ว บอกว่าซื้อที่อื่นขวดละ
๑๐๐ บาท เลยรีบขนซื้อทันที ผู้สนใจสั่งซื้อน้ำมันมะพร้าวในโครงการส่วนพระองค์
(จัดส่งให้) ติดต่อ ๐๘๑ ๙๕๘ ๗๘๔๒, ๐๘๑ ๒๕๖ ๔๐๑๒ น้ำมันมะพร้าวที่ผลิตจะส่งไปยัง
"มงคลชัยพัฒนา" เพื่อจัดจำหน่ายต่อไป น้ำมันมะพร้าวสกัดนี้มีประโยชน์มาก ทำอาหารเพียงเหยาะลงไปจะได้กลิ่นหอม
ขวดที่เก็บเอาไว้แล้วกว่าสองปี เปิดมาให้ผมดมกลิ่นยังหอมกรุ่น ไม่หืน
สาว ๆ ทั้งหลายไปเที่ยวโครงการ ฯ อย่าลืมอุดหนุนน้ำมันมะพร้าว เพราะราคาถูกประโยชน์มาก
หรือรับไปจำหน่ายก็ลองติดต่อตามเบอร์โทรที่ผมให้ไว้ ขอเชียร์ครับ
ออกจากโครงการ มุ่งหน้าหน้าไปทาง อ.ปะทิว เพื่อไปต่อยังหาดทุ่งวัวแล่น
ถนนสายนี้ส่วนใหญ่จะเลียบทะเล หรือมองเห็นทะเล ชายหาดสวยมาก เสียดายการประชาสัมพันธ์น้อยเกินไป
ทำให้นักท่องเที่ยวไม่ได้ชมของดี ผมผ่านชุมพรคงเกินกว่าร้อยครั้ง พึ่งมีวาสนาได้เห็นชายหาดงาม
เกาะ อ่าว สุดสวยก็ในครั้งนี้ รวมทั้งเนินทรายก็เช่นกัน ไม่มีที่ไหนในประเทศไทย
ที่มีเนินทรายแบบนี้ ออกจากโครงการอย่ากลับทางเดิม ให้เลี้ยวซ้ายไปสัก
๑ กม. มีป้ายคอนกรีตขนาดใหญ่ ตรงโค้งถนนบอกว่า "หนึ่งในสยาม เนินทรายงามที่ชุมพร"
มีทางเดินศึกษาธรรมชาติระยะทาง ๑,๑๔๖ เมตร
เลยต่อมา เป็นท่าเรือที่มีเรือไดหมึก หากเกาะเตียม สำนักสงฆ์แก้วประเสริฐมีเจ้าแม่กวนอิม
ถึงทางแยกขวาเข้า อ.ปะทิว วันนี้ไม่ได้แวะเข้าไป มุ่งไปยังหาดทุ่งวัวแล่น
ห่างจากโครงการมาประมาณ ๑๐ กม. จุดสวยมากอีกจุดหนึ่ง มีป่าโกงกาง ทิวเขาโค้งเข้าหากันเกิดเป็นอ่าว
มีแผ่นดินยื่นออกมาเป็นแหลม แต่รอยต่อกิ่วคอด ทำให้มองดูเหมือนเกาะ เชื่อมติดกับป่าโกงกาง
บรรยายไม่ถูกสรุปว่าสวยไปหมด
จากโครงการ เลียบชายทะเลเรื่อยไป จนผ่านหาดทุ่งวัวแล่น ร้านที่เคยชิมเป็นร้านของรีสอร์ทที่ใหญ่มาก
ชิมกันมาตั้งแต่ ๒๕ ปีที่แล้ว แต่วันนี้แมลงวันมากจริง ๆ และหมึกคลุกเนยแดดเดียว
ที่ผมเพ้อในความอร่อยมานาน รสและการทอดเปลี่ยนไป จากหาดทุ่งวัวแล่น ๑๔ กม.
ก็เข้าตัวเมืองชุมพร จะมาผ่านสี่แยกที่เลี้ยวขวาไปสถานีรถไฟ เลี้ยวซ้ายเข้าถนนกรมหลวง
ฯ ให้เลี้ยวซ้าย ไปร้านอาหาร ผมขอพามาชิมอาหารในเมืองชุมพร ระหว่างทางก่อนถึงหาดทุ่งวัวแล่น
ทางซ้ายจะมีร้านอาหาร ร้านนี้เคยชิมอาหารดี, ก๋วยเตี๋ยวต้นมะยม ที่บ้านสะพลี
ฯ
สวนอาหาร เส้นทางหากไปจากในตัวเมือง มาจากประจวบคีรีขันธ์ เลี้ยวซ้ายที่แยกปฐมพรไป
๙ กม. จะชนกับสามแยก เลี้ยวซ้ายไปผ่านศาลหลักเมือง ถึงสี่แยกมีไฟสัญญาณ เลี้ยวขวาเข้าถนนศาลาแดง
ตรงไปถึงสี่แยก มีไฟสัญญาณ (เลี้ยวซ้ายไปสถานีรถไฟ) ให้เลี้ยวขวาเข้าถนนกรมหลวง
ฯ (ถนนสายนี้ ยามเย็นจะกลายเป็นถนนรถเข็นอาหาร) เลี้ยวไปประมาณ ๔๐๐
เมตร ร้านจะอยู่ทางขวามือ สวนอาหาร สะอาดตา ร่มรื่น มีป้ายคลีน ฟู๊ด กู๊ดเทสท์
และป้ายรับรองเมนูสุขภาพ สั่งอาหารมาชิม
ต้มยำปลากะพงขาว ซดร้อน ๆ เด็ดนัก ปลาสดมาก เนื้อแน่นนุ่ม
ตับหมูไฟแดง จานนี้เป็นอาหารที่ร้านแนะนำ ผัดมากับคะน้าอ่อน ตับนุ่ม
ยำมะเขือเผา คนสั่งอาหารสูงอายุ เลยสั่งมาให้ชิม ใส่กุ้งสด รสมะเขือออกหวาน
สตูว์ลิ้น จานนี้อย่าข้ามไป โดยเฉพาะหากมีเด็กไปด้วย อร่อยมาก ซ๊อสสีแดง
มะเขือเทศ หอมใหญ่ ต้นหอม
ปูนิ่มทอดกระเทียมพริกไทย จานเด็ดอีกจานหนึ่ง จบแล้วในจานเกลี้ยงเกลา
ของหวานไม่มี มีแต่ส้มโอลูกใหญ่ ให้ปอกใส่จานมา กับสับปะรดหวานฉ่ำ
.............................................
|