ก่อนจะเดินทางเข้าไปเที่ยวในอุทยานแห่งชาติเขาสก ผมขอเล่าถึงการไปทอดผ้าป่าที่วัดพระขวาง อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร เสียก่อน ซึ่งผมได้เชิญชวนท่านผู้อ่านให้ช่วยกันทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ซึ่งทุกปีผมจะทอดผ้าป่า หรือทอดกฐิน เพียงหนึ่งครั้ง และทุกครั้งก็จะเชิฯชวนท่านผู้อ่านได้ร่วมในการกุศล ซึ่งกระทำติดต่อกันมานานกว่าสิบปีแล้ว และได้ผลคือ ได้ช่วยวัดที่ยากจน พระดี แต่ขาดแคลน และชาวบ้านที่อยู่รอบ ๆ วัด ก็ไม่ร่ำรวยพอที่จะช่วยสร้างถาวรวัตถุให้แก่วัดได้ ส่วนวัดที่ร่ำรวย หรือพุทธพาณิชย์ก็ไม่จำเป็นต้องไปช่วยท่าน เพราะมีคนไปบริจาคกันมากมายอยู่แล้ว สู้ช่วยกันทำนุบำรุงวัดที่มีพระดี ชาดแคลน และยากจนไม่ได้
            ในปี พ.ศ.๒๕๔๙ นี้ ผมก็ทำทีเดียวสองแห่งเลยคือ ทอดผ้าป่าที่วัดพระขวาง ซึ่งเส้นทางไปวัดคือ พอถึงสี่แยกปฐมพร ก็เลี้ยวซ้ายเส้นทางเข้าตัวเมืองชุมพร ไปไม่ไกลให้ดูหมายเลขซอยทางขวามือ พอซอย ๒๙ ก็เลี้ยวขวาเข้าไปสัก ๑.๕ กม. ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำชุมพรแล้ว วัดจะอยู่ทางซ้ายมือ ที่วัดนี้มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คือ "พระขวาง" ตามประวัติลอยน้ำมาติดขวางที่ท่าน้ำหน้าวัด เมื่ออัญเชิญขึ้นมาแล้ว จึงเปลี่ยนนามวัดเป็นวัดพระขวาง การทอดผ้าป่าหาปัจจัยช่วยวัดพระขวาง ครั้งนี้เพื่อสร้างเมรุเผาศพมาตรฐาน ซึ่งทางวัดมีเงินอยู่บ้างแล้ว และจะต้องใช้เงินในการก่อสร้างเป็นจำนวนถึง ๑.๖ ล้านบาท เมรุเผาศพเดิมก็มี แต่พังทลายเหลือแต่ซาก เพราะความเก่าแก่ของเมรุ วัดและชาวบ้านขุนกะทิง อยากให้สร้างเมรุใหม่ ญาติใครตายจะได้ไม่ต้องไปจัดงานศพที่วัดไกล ๆ
            อีกแห่งที่ต้องการจะสร้างในครั้งนี้ เนื่องมาจากในอดีตผมเคยเป็นรองแม่ทัพภาคที่ ๔ เป็นแม่ทัพภาคที่ ๔ ส่วนหน้า และเป็นทหารปืนใหญ่ ในค่ายเขตอุดมศักดิ์ จ.ชุมพร ที่มีอายุกว่า ๖๐ ปี นี้ไม่มีพุทธศาสนสถาน หากในวันสำคัญทางพุทธศาสนา จะต้องนำกำลังพลไปเวียนเทียนที่วัดนอกค่าย เช่น ในวันมาฆะบูชา และวันวิสาขบูชา เป็นต้น ภายในค่ายมีกองพันทหารปืนใหญ่ ๒๕ ตั้งอยู่ผมจะอยากสร้างพุทธศาสนสถานให้แก่กองพันทหารปืนใหญ่ ซึ่งก็จะเป็นของค่ายเขตอุดมศักดิ์ไปด้วย และระหว่างที่ยังรับราชการก็เคยสร้างไว้ ๒ แห่ง แห่งแรกสมัยที่ยังเป็นผู้บังคับกองพันทหารปืนใหญ่ที่ ๗ จังหวัดเชียงใหม่ แห่งที่ ๒ ในค่ายทหารทุ่งสง นครศรีธรรมราช ซึ่งค่ายนี้ผมขอพระราชทานนามค่ายว่า " ค่ายเทพสตรีศรีสุนทร " ที่ค่ายแห่งนี้สร้างไว้ใหญ่โต พื้นที่กว้างขวางและนำหินจากเขาสอยดาว จังหวัดจันทบุรี หนักถึง ๗ ตัน ชะลอมายังปากทางเข้าน้ำตกเขาอีโต้ จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อจ้างช่างแกะสลักเป็นพระพุทธรูปปางคันธารราษฎร์ เมื่อสร้างแล้วก็ชะลอมาโดยรถของทหารช่าง นำมาประดิษฐานไว้ที่ค่ายเทพสตรีศรีสุนทร แล้วอัญเชิญพระเกจิอาจารย์ของภาคใต้ มีหลวงปู่คลิ้ง แห่งวัดถลุงทอง ตอนนั้นท่านอายุร้อยปีพอดี มาเป็นประธานในพิธีเบิกเนตร แล้วบรรจุพระเครื่องเก่าแก่ส่วนตัวผมไว้ ๒ องค์ คือ พระกริ่ง และพระปางอู่ทอง อายุกว่า ๗๐๐ ปี เอาไว้ภายในจึงเป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์ ของค่ายเทพสตรีศรีสุนทร และของภาคใต้องค์หนึ่ง ดังนั้นเมื่อเห็นว่าในค่ายเขตอุดมศักดิ์ ไม่มีพุทธศาสนสถานและในปลายปี ๒๕๔๙ นี้ กำลังพลทั้งทหารราบ และทหารปืนใหญ่ ยังต้องไปผลัดเปลี่ยนกำลังพลหน่วยอื่น ที่กำลังปฎิบัติการอยู่ในพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ครอบครัวจะไม่มีที่พึ่งทางใจ หากสร้างพุทธศาสนสถานขึ้นในค่ายแล้ว หน่วยในค่ายหมุนเวียนกันไปทำบุญ เลี้ยงพระในวันเสาร์ เช่น เสาร์ต้นเดือน ครอบครัวและข้าราชการก็จะมีที่พึ่งทางใจ ได้มีโอกาสไปพบปะพูดคุยกัน เหมือนมีงานสังสรรค์ แต่เป็นงานบุญ และยิ่งมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ก็ยิ่งมีขวัญ กำลังใจดียิ่งขึ้น เมื่อสร้างเสร็จแล้ว ก็จะสร้างพระแก้วมรกต (จำลอง) ขนาดเท่าองค์จริงคือ หน้าตัก ๑๙ นิ้ว เครื่องทรง "ฤดูฝน" เพราะภาคใต้ฝนตกมาก และภาคใต้ยังไม่เห็นมีวัดใดที่มีพระแก้วมรกตอยู่เลย (หมายถึง ขนาดเท่าองค์จริง) นอกจากพระแก้วมรกต เป็นพระพุทธรูปประธานของศาสนสถานแห่งนี้แล้ว ยังมีพระพุทธรูปที่เป็นชาวใต้คือ หลวงปู่ทวด ขนาดหน้าตัก ๙ นิ้ว บูชาจากวัดห้วยมงคล อำเภอหัวหิน ซึ่งประธาน ฯ ผู้สร้างก็เป็นรองสมุหราชองค์รักษ์ และเป็นอดีตนายทหารปืนใหญ่ สร้างวโรกาส ๗๒ พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ฯ ยังมีอีกคือ พระรูปของพลเรือเอก พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ บูชาจากศาลซึ่งสร้างอยู่ที่บริเวณพระองค์สิ้นพระชนม์คือ หาดทรายรี ชุมพร จึงเชื่อว่าศาสนสถานแห่งนี้ คงมีความศักดิ์สิทธิ์พอจะเป็นที่พึ่งทางใจ บำรุงขวัญให้แก่กำลังพล ตลอดจนครอบครัวในค่ายเขตอุดมศักดิ์ได้
            ผมเดินทางออกจากกรุงเทพ ฯ ประมาณ ๐๗.๐๐ จะไปให้ถึงค่ายเขตอุดมศักดิ์ก่อนเวลา ๑๕.๐๐ เพื่อนำเงินไปมอบให้แก่ผู้บังคับกองพันทหารปืนใหญ่ที่ ๒๕ ซึ่งเป็นแม่กองในการก่อสร้างครั้งนี้ การเดินทางไปชุมพรคราวนี้ไม่ได้แวะที่ไหนเลย แต่ขอทบทวนแหล่งท่องเที่ยวที่หากมีเวลาพอแวะได้บ้าง แม้จะไม่ครบทุกแห่งก็ตาม โดยตั้งเป้าหมายว่าจะนอนที่ชุมพรหนึ่งคืน แล้วรุ่งขึ้นจึงจะทอดผ้าป่า แล้วเดินทางต่อไปยังเขื่อนรัชชประภา หรือเขื่อนเชี่ยวหลาน ซึ่งอยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติเขาสก ซึ่งจะผ่านแหล่งท่องเที่ยวที่เคยพาไปมาแล้ว เช่น
            เมืองแม่กลอง หรือจังหวัดสมุทรสงคราม หากออกกันตั้งแต่เช้า พอถึงสมุทรสงคราม เลี้ยวขวาไปเที่ยวตลาดน้ำก่อน ก็ยังทันตลาดน้ำดำเนินสะดวก (เขตติดต่อราชบุรี) หรือหากตรงกับวันขึ้น หรือแรม ๒,๗ และ ๑๒ ค่ำ ก็ไปตลาดน้ำท่าคา ที่ไม่ไกลจากตัวเมือง ไปแวะกินอาหารเช้าที่ตลาดน้ำเสียเลย แล้วจึงออกเดินทางต่อไป ก็น่าจะออกจากสมุทรสงคราม ได้ไม่เกินเวลา ๐๙.๐๐
            หรือออกสายหน่อย แบบที่ผมไป ก็ไปกินข้าวแกงเป็นอาหารเช้า ที่อำเภอเขาย้อย ร้านอยู่ทางขวามือ อยู่ก่อนถึงสี่แยกไฟสัญญาณ แล้วจะเลยแวะเที่ยวถ้ำเขาย้อยด้วยก็ได้ ข้าวแกงร้านนี้มีอาหารร่วมร้อยอย่าง